เจรจารัสเซียยังไร้ข้อสรุป ดันทองคำฟื้นตัว
Gold Bullish
• สหรัฐฯ ถูกลดเครดิต เรทติ้งจาก Aaa เหลือ Aa1
• ความล้มเหลวในการควบคุมงบประมาณ-ดอกเบี้ยของสหรัฐฯ
• ปัญหาทางภูมิรัฐศาสตร์ยังคงกดดันตลาดโลก
Gold Bearish
- จีนเริ่มเก็บภาษีตอบโต้แบบมีกรอบเวลาแน่นอน
- ความพยายามทางการทูตของผู้นำโลกยังดำเนินอยู่
เศรษฐกิจสหรัฐฯ ถูกตั้งคำถาม หลังถูกลดเครดิต
ความเชื่อมั่นต่อสถานะทางการคลังของสหรัฐฯ สั่นคลอนอีกครั้ง หลังจากมูดี้ส์ เรทติ้งส์ ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือระยะยาวของรัฐบาลสหรัฐฯ จากระดับ Aaa ลงมาอยู่ที่ Aa1 โดยให้เหตุผลถึงภาระหนี้สาธารณะที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องยาวนานกว่า 10 ปี จนแตะระดับที่สูงเกินประเทศที่มีอันดับใกล้เคียงกัน อีกทั้งยังชี้ให้เห็นถึงความล้มเหลวของรัฐบาลและสภาคองเกรสสหรัฐฯ ที่ไม่สามารถหาข้อสรุปร่วมกันได้ในการจำกัดการขาดดุลงบประมาณและควบคุมภาระดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจนำไปสู่การใช้งบประมาณภาครัฐอย่างไม่มีประสิทธิภาพในระยะยาว
แรงกดดันด้านการคลังในระยะยาว
มูดี้ส์ยังแสดงความกังวลว่าการขาดดุลงบประมาณที่ต่อเนื่องและมีขนาดใหญ่อาจผลักดันให้หนี้ภาครัฐเพิ่มขึ้นเป็น 134% ของ GDP ภายในปี 2578 จากระดับประมาณ 98% ในปี 2567 โดยมีแนวโน้มว่าภาระดอกเบี้ยที่รัฐบาลกลางต้องชำระจะพุ่งแตะ 30% ของรายได้ภาครัฐในปี 2578 เพิ่มขึ้นจากระดับ 18% ในปัจจุบัน ความเสี่ยงเช่นนี้ไม่เพียงส่งผลต่อความน่าเชื่อถือของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ เท่านั้น แต่ยังสะท้อนภาพความไม่มั่นคงทางเศรษฐกิจในระยะยาว ซึ่งอาจกระทบต่อทิศทางของเงินทุนระหว่างประเทศ
เจรจาสันติภาพรัสเซีย-ยูเครนไร้ข้อสรุป แต่มีความคืบหน้าบางส่วน
ในอีกฟากหนึ่งของโลก ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนยังคงดำเนินต่อไป แม้สองฝ่ายได้กลับมาหารือกันแบบพบหน้าในนครอิสตันบูล ประเทศตุรกี ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในรอบกว่าสองปี แต่ก็ยังไร้ข้อตกลงหยุดยิง โดยการเจรจาใช้เวลาไม่ถึงสองชั่วโมงและมีความเห็นต่างอย่างรุนแรงตั้งแต่ต้น อย่างไรก็ตาม ทั้งสองฝ่ายสามารถตกลงกันได้ในประเด็นการแลกเปลี่ยนเชลยศึกจำนวน 1,000 คนต่อฝ่าย ซึ่งเป็นพัฒนาการเชิงบวกเล็กน้อยในสถานการณ์ที่ยังเต็มไปด้วยความตึงเครียด
ความระแวงทางการเมืองและบทบาทของชาติมหาอำนาจ
แม้รัสเซียจะแสดงท่าทีพอใจกับการหารือและพร้อมจะดำเนินการต่อ แต่ฝ่ายยูเครนยังแสดงความกังวลว่า รัสเซียอาจใช้การเจรจาเพื่อซื้อเวลาในการหลีกเลี่ยงแรงกดดันจากมาตรการคว่ำบาตรระลอกใหม่ของสหภาพยุโรป ขณะเดียวกัน สหรัฐฯ โดยอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ก็ออกมาระบุว่าการเจรจาที่สำคัญอย่างแท้จริง ควรเกิดขึ้นระหว่างเขากับปูติน ซึ่งสะท้อนภาพความซับซ้อนและเกมการเมืองระหว่างประเทศที่ยังคงดำเนินต่อไปอย่างเข้มข้น
จีนตอบโต้เศรษฐกิจโลก ด้วยมาตรการภาษี
ด้านประเทศจีน ล่าสุดได้ประกาศมาตรการจัดเก็บภาษีตอบโต้การทุ่มตลาดกับสินค้านำเข้าประเภทพอลิฟอร์มัลดีไฮด์โคพอลิเมอร์จากสหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป ไต้หวัน และญี่ปุ่น โดยจะเริ่มบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 19 พฤษภาคมนี้ เป็นระยะเวลา 5 ปี โดยมีอัตราภาษีที่แตกต่างกันตามประเทศต้นทาง ซึ่งอยู่ในช่วง 3.8% ถึง 74.9% สะท้อนถึงท่าทีแข็งกร้าวของจีนต่อการแข่งขันทางอุตสาหกรรม และความพยายามในการปกป้องผู้ผลิตภายในประเทศจากผลกระทบของการทุ่มตลาด
ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมโลก
พอลิฟอร์มัลดีไฮด์โคพอลิเมอร์ เป็นวัตถุดิบสำคัญที่ใช้ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น ยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องจักร และอุปกรณ์ทางการแพทย์ การดำเนินมาตรการนี้จึงอาจส่งผลต่อซัพพลายเชนในระดับโลก โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจหลายประเทศยังฟื้นตัวจากวิกฤตโควิด-19 และเผชิญกับแรงกดดันจากภาวะเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยสูง
แนวโน้มราคาทองในสัปดาห์
ในช่วงอาทิตย์นี้ราคาทองโลกเริ่มฟื้นตัวขึ้นมาอีกครั้ง แต่อาจมี Upside ในการปรับตัวขึ้นรอบนี้ค่อนข้างจำกัด โดยประเมินว่ามีแนวต้านสำคัญที่ระดับ 3,275 ดอลลาร์ (เทียบเท่าราคาทองแท่งในประเทศที่ 51,400 บาท) ซึ่งราคาอาจเร่งตัวขึ้นทดสอบ แต่อาจยังคงผ่านแนวต้านดังกล่าวได้ยาก โดยมีแนวรับสำคัญอยู่ที่ระดับ 3,135-3,165 ดอลลาร์ (เทียบเท่าราคาทองแท่งในประเทศที่ 49,300-49,700 บาท) หากอิงค่าเงินบาทที่ 33.00 บาท