แนวโน้มราคาทอง
ฟื้นตัวในกรอบจำกัด
- ราคาทองยังคงตอบรับความกังวลต่อสถานการณ์การค้าโลกที่ผ่อนคลายลง
- ปิดตลาดที่ระดับ 3,273 ดอลลาร์
Gold spot
สูงสุด – 3,327 ดอลลาร์
ต่ำสุด – 3,256 ดอลลาร์
ราคาทองคำแท่ง
สูงสุด – 50,600 บาท
ต่ำสุด – 50,600 บาท
ภาพการเคลื่อนไหวที่ผ่านมา
ราคาทองโลกปรับตัวลง (-54.28) ดอลลาร์ จากการที่เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวได้เปิดเผยว่าสหรัฐฯ-จีน ได้บรรลุข้อตกลงในการเร่งกระบวนการจัดส่งแร่หายากมายังสหรัฐฯ และสหรัฐฯ ได้ตกลงที่จะส่งเทคโนโลยีขั้นสูงให้กับจีน อีกทั้งทางฝั่งนายสก็อตต์ เบสเซนต์ รมว. คลังสหรัฐฯ เรียกร้องให้พรรครีพับลิกันในสภาคองเกรสถอดถอนข้อเสนอภาษีตอบโต้ซึ่งจะเปิดทางให้โดนัลด์ ทรัมป์ สามารถเรียกเก็บภาษีสูงถึง 20% ต่อนักลงทุนต่างชาติ ในขณะที่เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา สหรัฐฯ ได้เปิดเผยดัชนีการบริโภคส่วนบุคคลพื้นฐานเดือน พ.ค. เทียบรายเดือน / รายปีออกมาแข็งแกร่งกว่าคาด อย่างไรก็ตาม ปธน. โดนัลด์ ทรัมป์ ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวในห้องแถลงข่าวทำเนียบขาวเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยกล่าวว่า อาจพิจารณาสั่งโจมตีทางทหารต่ออิหร่านอีกครั้ง หากอิหร่านยังเดินหน้ากิจกรรมด้านนิวเคลียร์อีก แต่ในวันเดียวกัน วุฒิสภาสหรัฐฯ ได้ลงมติ
ไม่ผ่านญัตติที่เสนอให้อำนาจของปธน.ในการดำเนินการทางทหารกับอิหร่านเพิ่มเติม โดยต้องได้รับความเห็นชอบจากสภาคองเกรสก่อน ทางด้านกองทุน SPDR ซื้อทอง 4.58 ตันในสัปดาห์ก่อน รวมสุทธิ 954.82 ตัน
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
คืนนี้เวลา 21.00 น. สหรัฐฯ จะมีการแถลงของประธานเฟดสาขาแอตแลนตา
วิเคราะห์ราคาทอง
ราคาทองโลกในระยะสั้นได้ฟื้นตัวจากแนวรับสำคัญที่ระดับ 3,250 ดอลลาร์ แต่ในภาพใหญ่ยังคง Sideway Down จึงประเมินว่าราคาทองโลกยังคงเป็นการฟื้นตัวระยะสั้น โดยมีแนวต้านที่ระดับ 3,300 ดอลลาร์
ราคาทองตลาดโลก
แนวรับ : 3,245 และ 3,215 ดอลลาร์
แนวต้าน : 3,295 และ 3,320 ดอลลาร์
ราคาทองโลกในภาพใหญ่ยังคง Sideway Down แต่ระยะสั้นมีการฟื้นตัว แนะนำใช้กลยุทธ์รอเข้าซื้อสะสมจากแนวรับที่ระดับ 3,245 ดอลลาร์และขายทำกำไรหากราคาขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 3,295 ดอลลาร์ แต่หากราคาหลุดแนวรับที่ 3,215 ดอลลาร์ แนะนำขายตัดขาดทุน
ราคาทองคำแท่ง 96.5%
แนวรับ : 50,350 และ 50,050 บาท
แนวต้าน : 50,850 และ 51,100 บาท
ราคาทองในประเทศยังคงปรับฐานลงตามทองโลก ในขณะที่ค่าเงินบาทยังคงผันผวนแนะนำใช้กลยุทธ์เชิงรับทยอยเข้าสะสมที่ระดับ 50,350 บาท และตัดขาดทุนหากราคาหลุดแนวรับที่ 50,050 บาทลงไป
