แนวโน้มราคาทอง
คาดฟื้นตัวทดสอบ $3,320
- ราคาทองปรับตัวลง (-41.72) ดอลลาร์ คิดเป็น (-1.24%)
- ปิดตลาดที่ระดับ 3,300 ดอลลาร์
Gold spot
สูงสุด – 3,349 ดอลลาร์
ต่ำสุด – 3,286 ดอลลาร์
ราคาทองคำแท่ง
สูงสุด – 51,600 บาท
ต่ำสุด – 51,150 บาท
ภาพการเคลื่อนไหวที่ผ่านมา
ราคาทอง Spot ปรับลดลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 ลดลง $41 เนื่องจากนักลงทุนคลายความกังวลสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและยุโรป หลังจากประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศเลื่อนการเก็บภาษีนำเข้าจาก EU ในอัตรา 50% ออกไปเป็นวันที่ 9 ก.ค. นอกจากนี้เงินดอลลาร์กลับมาแข็งค่าขึ้นกดดันราคาทอง จากสัปดาห์ก่อนเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงถึง 1.8% ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐเดือนพ.ค.แข็งแกร่งเกินคาด โดยเพิ่มขึ้นเป็น 98.0 สูงกว่าตลาดคาดที่ระดับ 87.1 จากการที่สหรัฐและจีนบรรลุข้อตกลงปรับลดอัตราภาษีนำเข้าชั่วคราว ทางด้านกองทุน SPDR ถือทองเท่าเดิม
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
คืนนี้ สหรัฐฯ มีประกาศการแถลงของประธานเฟดสาขานิวยอร์ก , การแถลงของคณะกรรมการผู้ว่าการเฟด(คริสโตเฟอร์ วอลเลอร์) , การแถลงของประธานเฟดสาขามินนิอาโปลิส และ ดัชนีภาคการผลิตของเฟดสาขาริชมอนด์ เดือนพ.ค.
วิเคราะห์ราคาทอง
ราคาทองโลกฟื้นตัวระยะสั้นทางเทคนิค โดยมีแนวรับสำคัญที่ 3,280 ดอลลาร์ หากสามารถทะลุแนวต้านที่ 3,320 ดอลลาร์ได้สำเร็จ ลุ้นราคาทองโลกระยะกลาง-ยาว กลับมา Sideway อีกครั้ง
ราคาทองตลาดโลก
แนวรับ : 3,290 และ 3,280 ดอลลาร์
แนวต้าน : 3,310 และ 3,320 ดอลลาร์
ราคาทองโลกเริ่มฟื้นตัวระยะสั้น หากแกว่ง Sideway ไม่หลุดแนวรับที่ 3,290-3,280 ดอลลาร์ มีโอกาสที่กราฟราย 4 ชั่วโมง จะทำ Pattern แบบ Head and Shoulders ทะลุแนวต้านย่อย 3,320 ดอลลาร์ เพื่อขึ้นทดสอบแนวต้านใหญ่ที่ 3,340 ดอลลาร์ จึงแนะนำเก็งกำไรระยะสั้นในกรอบแนวรับแนวต้านดังกล่าวในช่วงเช้านี้ไปก่อน
ราคาทองคำแท่ง 96.5%
แนวรับ : 50,800 และ 50,700 บาท
แนวต้าน : 51,400 และ 51,500 บาท
ทองคำในประเทศยังคง Sideway จากการที่เงินบาทกลับมาแข็งค่าระยะสั้นและทองโลกมีการฟื้นตัวขึ้นระยะสั้น แนะนำใช้กลยุทธ์เชิงรับรอเข้าซื้อสะสมที่บริเวณ 50,800-50,700 บาท
