สิ่งที่ควรรู้จากการประชุมเฟดครั้งนี้
ผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 16-17 ก.ย. 2568 มีมติ 11 ต่อ 1 เสียง ลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% เหลือ 4.00-4.25% เป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ซึ่งเป็นการลดครั้งแรกตั้งแต่เดือนธันวาคมปีที่แล้ว
การประชุมครั้งนี้มีสีสันทางการเมือง เมื่อสตีเฟน มิแรน ผู้ว่าการเฟดคนใหม่เข้าร่วมประชุมครั้งแรกหลังสาบานตนเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันอังคาร ซึ่งมิแรนโหวตไม่เห็นด้วยกับการลดอัตราดอกเบี้ย โดยต้องการให้ลดอัตราดอกเบี้ยแรงถึง 0.50%
Dot Plot หรือการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟด ปีนี้เฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยอีก 0.50% หรือ 2 ครั้ง ส่วนปี 2569-2570 จะลดอัตราดอกเบี้ยเพียงปีละ 0.25% หรือปีละ 1 ครั้งเท่านั้น ไม่เปลี่ยนแปลงจากประมาณการในเดือนมิถุนายน สะท้อนให้เห็นว่าเฟดมีการเร่งลดดอกเบี้ยในปีนี้ แต่ชะลอการลดดอกเบี้ยในปีถัดไป
Dot Plot (คาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟด)
นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด แถลงว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งนี้เป็นการลดโดยมีจุดประสงค์ด้านการจัดการกับความเสี่ยง ไม่ใช่เพื่อส่งสัญญาณแนวทางลดอัตราดอกเบี้ยต่อเนื่อง โดยมีเหตุผลหลักมาจากความเสี่ยงของตลาดแรงงานที่เริ่มอ่อนตัว พาวเวลเตือนว่าแม้ dot plot จะประมาณการว่าจะลดดอกเบี้ยอีกหลายครั้ง แต่ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นแนวทางที่ถูกยึดไว้แน่นอน ทุกการตัดสินใจจะขึ้นอยู่กับข้อมูลเศรษฐกิจที่เข้ามา และการประเมินความเสี่ยงในแต่ละช่วงเวลา (“meeting-by-meeting situation”)
FedWatch Tool ของ CME Group สะท้อนมุมมองของตลาด ตลาดคาดเฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงที่เหลือของปีนี้ 0.50% หรือ 2 ครั้ง ในเดือนตุลาคมและเดือนธันวาคม และในปีหน้าลดอัตราดอกเบี้ย 0.75%
แนวโน้มราคาทองคำและคำแนะนำการลงทุน
ก่อนหน้านี้มีแรงซื้อเก็งกำไรจากการคาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเฟดรอบนี้ ทำให้ราคาทองคำปรับขึ้นแรงต่อเนื่องทำ All-time high ที่ 3,707 ดอลลาร์ ซึ่งปรับขึ้นถึงราว 300 ดอลลาร์ นับตั้งแต่การประชุมแจ็คสัน โฮล ที่เจอโรม พาวเวล เริ่มส่งสัญญาณลดอัตราดอกเบี้ย และเพิ่มขึ้น 100 ดอลลาร์ภายใน 1 สัปดาห์ ในระยะสั้นคาดทองคำจะมีแรงเทขายออกมาหลังจากรับรู้ประเด็นการลดดอกเบี้ยไปแล้ว (Sell on fact) ทั้งนี้การแถลงของพาวเวลสร้างความสับสนต่อตลาดต่อทิศทางอัตราดอกเบี้ยที่ไม่ชัดเจน ส่วน Dot Plot สะท้อนให้เห็นว่าเฟดมีการเร่งลดดอกเบี้ยในปีนี้ แต่ชะลอการลดดอกเบี้ยในปีถัดไป
การลงทุนระยะสั้น แนะนำขายทำกำไร และทยอยซื้อที่ 3,620-3,650 / 3,600 ดอลลาร์ ระยะยาวแนะนำถือต่อไปได้ (Let Profit Run) เนื่องจากยังคาดว่าราคาทองคำเป็นขาขึ้น โดยมีปัจจัยหนุนจาก De-Dollarization ทำให้มีแรงซื้อทองคำจากธนาคารกลาง รวมทั้งความเชื่อมั่นเงินดอลลาร์ลดลง เนื่องจากปัญหาหนี้สาธารณะสหรัฐที่เพิ่มสูงขึ้น การขาดวินัยทางการคลัง การแทรกแซงองค์กรอิสระ ความน่าเชื่อถือของข้อมูลสถิติสหรัฐลดลง
