แนวโน้มราคาทอง
คาดฟื้นตัวระยะสั้น
- ราคาทองเริ่มฟื้นตัว
- จับตาตัวเลข GDP สหรัฐฯ คืนนี้
Gold spot
สูงสุด – 3,286 ดอลลาร์
ต่ำสุด – 3,245 ดอลลาร์
ราคาทองคำแท่ง
สูงสุด – 50,950 บาท
ต่ำสุด – 50,750 บาท
ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา
ราคาทองโลกย่อตัวช่วงบ่ายไม่หลุดแนวรับ 3,250 ดอลลาร์ ซึ่งประเด็นที่ส่งผลลบต่อราคาทองคือ ศาลการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐฯ ได้สั่งระงับภาษีนำเข้า 10% และภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariff) กับทุกประเทศ โดยตัดสินว่าทรัมป์ใช้อำนาจเกินขอบเขต ในขณะที่ญี่ปุ่นเตรียมเจรจาต่อรองการค้ากับสหรัฐฯ รอบที่ 4 ในวันศุกร์ที่ 30 พ.ค. โดยยื่นเสนอซื้อยุทโธปกรณ์ทางทหาร รวมถึงไปถึงเพิ่มปริมาณการนำเข้าสินค้าเกษตรจากสหรัฐฯ เพื่อให้สหรัฐฯ มีดุลการค้าเกินดุลกับญี่ปุ่น โดยญี่ปุ่นยืนยันว่า จะไม่ปรับกลยุทธ์ในการต่อรอง แม้ศาลการค้าของสหรัฐฯ เพิ่งตัดสินระงับแผนการเก็บภาษีนำเข้าก็ตาม ทางด้านฝั่งประเทศจีนกำลังเริ่มต้นแผนพัฒนาตลาดสินค้าโภคภัณฑ์เซี่ยงไฮ้ (SHFE) ขยายออกสู่ตลาดต่างประเทศด้วยการวางหลักประกันเป็นเงินตราต่างประเทศแต่ซื้อขายเป็นเงินหยวนเพื่อให้หยวนเป็นสกุลกลางแทนการซื้อขายด้วยเงินดอลลาร์ ทำให้ข่าวประเด็นนี้เป็นที่น่าจับตามองต่อไป
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
คืนนี้ สหรัฐฯ มีประกาศการตัวเลขจีดีพีไตรมาส 1 (ประมาณการครั้งที่ 2), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และ สัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย เดือนเม.ย.
วิเคราะห์ราคาทอง
หลังจากในช่วงเช้าราคาทองโลกสามารถยืนเหนือแนวรับที่ระดับ 3,250 ดอลลาร์ได้ คาดการณ์แนวโน้มยังคงเป็นการฟื้นตัวขึ้นระยะสั้น โดยหากราคาทองโลกสามารถทะลุแนวต้านที่ระดับ 3,300 ดอลลาร์ อาจมีแรงซื้อเข้าหนุนอีกครั้ง
ราคาทองตลาดโลก
แนวรับ 3,250 และ 3,220 ดอลลาร์
แนวต้าน 3,300 และ 3,340 ดอลลาร์
แนะนำใช้กลยุทธ์ซื้อตามแนวรับและขายแนวต้าน คาดการณ์หากราคาทองโลกสามารถทะลุแนวต้านที่ 3,300 ดอลลาร์ ได้ จะมีโอกาสขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 3,340 ดอลลาร์ แต่หากหลุดแนวรับ 3,250 ดอลลาร์ ก็มีโอกาสปรับตัวลงมาทดสอบแนวรับถัดไปที่ 3,220 ดอลลาร์
ราคาทองคำแท่ง 96.5%
แนวรับ 50,500 และ 50,300 บาท
แนวต้าน 51,300 และ 51,500 บาท
ทองคำในประเทศยังคง Sideway ติดแนวต้านสำคัญอยู่ที่ระดับ 51,500 บาท คาดการณ์ว่าราคาทองในประเทศ อาจยังคงแกว่งตัวในกรอบแนวรับแนวต้าน แนะนำกลยุทธ์ทยอยซื้อที่ 50,500 บาท แต่หากหลุด 50,300 บาท แนะนำตัดขาดทุนออกก่อน