แนวโน้มราคาทอง
Sideway
- ราคาทองเริ่มฟื้นตัว แต่ระยะสั้น ดอลลาร์อาจแข็งค่ากดดันทอง
Gold spot
สูงสุด – 3,323 ดอลลาร์
ต่ำสุด – 3,291 ดอลลาร์
ราคาทองคำแท่ง
สูงสุด – 51,350 บาท
ต่ำสุด – 51,100 บาท
ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา
ราคาทองโลกปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดในช่วงบ่ายที่ระดับ 3,323 ดอลลาร์ ซึ่งประเด็นที่ส่งผลต่อราคาทอง คือ ดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) ซึ่งกลับตัวแข็งค่าขึ้นไปที่ 99.5 จากการที่ หุ้นเอ็นวิเดีย กำลังจะมีการประกาศผลประกอบการในคืนนี้ โดยตลาดคาดการณ์ว่ารายได้อาจขยายตัวขึ้น 66.2% ในไตรมาสที่ 1 เป็น 43.2 พันล้านดอลลาร์ ส่งผลให้ดัชนี S&P500 มีการปรับตัวขึ้น กดดันราคาทอง อีกทั้งตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ประกาศเมื่อคืนวานออกมาแข็งแกร่งกว่าคาดที่ 98.0 คาดการณ์ 87.1 ขณะที่ร่างกฎหมายลดภาษีครั้งใหญ่ของ โดนัลด์ ทรัมป์ กำลังอยู่ในขั้นตอนการลงมติในวุฒิสภา ซึ่งอาจทำให้สหรัฐต้องขาดดุลงบประมาณถึง 4 ล้านๆ ดอลลาร์ ในช่วง 10 ปีข้างหน้า ในขณะที่การนำเข้าทองคำสุทธิของจีนผ่านฮ่องกงอยู่ที่ 43.46 เมตริกตันในเดือนเมษายน เพิ่มขึ้นจาก 4.889 เมตริกตันในเดือนมีนาคม ทำให้เป็นปัจจัยบวกกับทองที่ต้องจับตา
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
ช่วง 21.00 น. สหรัฐจะมีการเผยดัชนีภาคการผลิตของเฟด สาขาริชมอนด์ เดือนพ.ค.
วิเคราะห์ราคาทอง
หลังจากในช่วงเช้าราคาทองโลกสามารถยืนเหนือแนวรับที่ระดับ 3,290 ดอลลาร์ได้ คาดการณ์แนวโน้มยังคงเป็นขาลงในระยะสั้น โดยหากราคาทองโลกสามารถทะลุแนวต้านที่ระดับ 3,320 ดอลลาร์ อาจมีแรงซื้อเข้าหนุนอีกครั้ง
ราคาทองตลาดโลก
แนวรับ 3,300 และ 3,310 ดอลลาร์
แนวต้าน 3,340 และ 3,350 ดอลลาร์
ช่วงเช้าที่ผ่านมา ทองโลกยังแกว่งตัวในกรอบ 3,290-3,310 ดอลลาร์ แนะนำใช้
กลยุทธ์เชิงรับ โดยมีระดับราคาที่อาจเสี่ยงทยอยเข้าซื้อเพื่อทำกำไรระยะสั้นที่ 3,300 และ 3,310 ดอลลาร์ตามลำดับ
ราคาทองคำแท่ง 96.5%
แนวรับ 50,800 และ 50,700 บาท
แนวต้าน 51,400 และ 51,500 บาท
ทองคำในประเทศยังติดแนวต้านสำคัญที่ระดับ 51,500 บาท จึงประเมินว่าราคาทองในประเทศอาจยังแกว่งตัว Sideway จึงยังคงแนะนำใช้กลยุทธ์เชิงรับทยอยซื้อสะสมที่ 50,700 และ 50,800 บาทตามลำดับ