แนวโน้มราคาทอง
คาดลงทดสอบ $3,280
- ราคาทองยังไม่ผ่านแนวต้าน $3,350
- คาดนักลงทุนยังรอข่าวสำคัญคืนนี้
Gold spot
สูงสุด – 3,349 ดอลลาร์
ต่ำสุด – 3,292 ดอลลาร์
ราคาทองคำแท่ง
สูงสุด – 51,600 บาท
ต่ำสุด – 51,150 บาท
ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา
ราคาทองโลกปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดในช่วงเช้านี้ที่ระดับ 3,350 ดอลลาร์ ก่อนเผชิญแรงขายทำกำไรในช่วงบ่ายที่ผ่านมา ประเด็นที่ส่งผลกระทบต่อราคาทอง
นักลงทุนยังคงระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการถือครองสินทรัพย์ใดๆ ของสหรัฐฯ จากการที่ Moody’s Ratings ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐฯ ในวันที่ 16 พฤษภาคม เป็นปัจจัยบวกต่อทองคำ อย่างไรก็ตาม หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ยกเลิกคำขู่ที่จะจัดเก็บภาษี 50% ต่อสินค้าจากสหภาพยุโรป ในวันที่ 1 มิ.ย. ส่งผลให้ความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยลดลงชั่วขณะ ในขณะที่การประชุมกลุ่ม BRICS ในวันที่ 6-7 มิถุนายน ที่ประเทศบราซิล ยังคงมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาสกุลเงินทางเลือกหรือระบบการชำระเงินข้ามพรมแดนที่เป็นอิสระจาก SWIFT
เพื่อลดอิทธิพลของดอลลาร์ ทำให้ดอลลาร์ยังคงเจอความท้าทายในขณะที่ทองคำยังเป็นที่สนใจในระยะยาว
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
คืนนี้ สหรัฐฯ จะมีการประกาศ คำสั่งซื้อสินค้าคงทน (พื้นฐาน), คำสั่งซื้อสินค้าคงทน, และความเชื่อมั่นผู้บริโภคของ CB
วิเคราะห์ราคาทอง
หลังช่วงเช้าราคาทองโลกย่อตัวไม่ผ่านแนวต้านสำคัญที่ 3,350 ดอลลาร์ แนวโน้มจึงยังคงเป็นขาลงระยะสั้น หากหลุดแนวรับที่ระดับ 3,300 ดอลลาร์ ลงไป มีโอกาสที่ราคาอาจลงมาทดสอบแนวรับย่อยที่ 3,280 ดอลลาร์ และ
แนวรับใหญ่ที่ 3,250 ดอลลาร์ ตามลำดับ
ราคาทองตลาดโลก
แนวรับ 3,280 และ 3,250 ดอลลาร์
แนวต้าน 3,330 และ 3,350 ดอลลาร์
ราคาทองโลกติดแนวต้านสำคัญที่ระดับ 3,350 ดอลลาร์ ทำให้แนวโน้มยังคงเป็นการปรับฐาน แนะนำใช้กลยุทธ์เชิงรับ โดยมีระดับราคาที่อาจใช้เสี่ยงทยอยซื้อเพื่อทำกำไรระยะสั้นที่ 3,280 และ 3,250 ดอลลาร์ตามลำดับ
ราคาทองคำแท่ง 96.5%
แนวรับ 51,000 และ 50,900 บาท
แนวต้าน 51,400 และ 51,500 บาท
ทองคำในประเทศที่ฟื้นตัวขึ้นมาในช่วงเช้า ยังคงติดแนวต้านสำคัญอยู่ที่ระดับ 51,800 บาท จึงประเมินว่าราคาอาจปรับตัวลง และยังคงแนะนำใช้กลยุทธ์เชิงรับ โดยมีระดับราคาที่อาจใช้เสี่ยงทยอยซื้อเพื่อทำกำไรระยะสั้นที่ 51,000 และ 50,900 บาทตามลำดับ