ออสติน กูลส์บี ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) สาขาชิคาโกได้ออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับความเป็นองค์กรอิสระของเฟด หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ได้แสดงความไม่พอใจต่อการดำเนินนโยบายการเงินของเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด และขู่ว่าจะปลดพาวเวลออกจากตำแหน่ง
กูลส์บีกล่าวในรายการ “Face the Nation” ของสถานีโทรทัศน์ซีบีเอส (CBS) เมื่อวันอาทิตย์ (20 เม.ย.) ว่า เขาหวังว่าสหรัฐฯ จะไม่ก้าวเข้าสู่สภาพแวดล้อมที่ความสามารถของธนาคารกลางในการกำหนดนโยบายการเงินอย่างเป็นอิสระโดยปราศจากแรงกดดันทางการเมืองนั้น จะถูกตั้งคำถาม พร้อมกับกล่าวว่า บรรดานักเศรษฐศาสตร์ต่างก็เห็นพ้องว่า การที่เฟดหรือธนาคารกลางใด ๆ มีความเป็นอิสระในการดำเนินนโยบายการเงินและไม่ถูกแทรกแซงทางการเมือง ถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง
กูลส์บีกล่าวว่า เขาพบว่าประเทศที่ธนาคารกลางไม่มีอิสรภาพนั้น อัตราเงินเฟ้อมักจะปรับตัวสูงขึ้น เศรษฐกิจเติบโตช้าลง และตลาดแรงงานอ่อนแอลง พร้อมกับกล่าวว่า เขาคาดหวังว่าสหรัฐฯ จะไม่ผลักตัวเองเข้าสู่สภาพแวดล้อมที่ความเป็นอิสระทางการเงินถูกตั้งคำถาม เพราะนั่นจะเป็นการบ่อนทำลายความน่าเชื่อถือของเฟด
การแสดงความเห็นดังกล่าวของกูลส์บี มีขึ้นหลังจากปธน.ทรัมป์เรียกร้องให้พาวเวลเร่งปรับลดอัตราดอกเบี้ย และขู่ว่าจะปลดนายพาวเวลออกจากตำแหน่ง หากไม่ทำตามข้อเรียกร้องดังกล่าว
“พาวเวลลดอัตราดอกเบี้ยช้าเกินไป เขาควรปรับลดมานานแล้วเหมือนกับธนาคารกลางยุโรป (ECB) และเขาควรลดดอกเบี้ยในตอนนี้ การปลดพาวเวลไม่สามารถรอได้อีกต่อไป!” ปธน.ทรัมป์โพสต์ข้อความใน Truth Social เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์ได้แสดงความไม่พอใจที่พาวเวลกล่าวว่า มาตรการเรียกเก็บภาษีศุลกากรของปธน.ทรัมป์จะทำให้เงินเฟ้อดีดตัวขึ้น และกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจและตลาดแรงงานของสหรัฐฯ
ทางด้านเควิน แฮสเซตต์ ที่ปรึกษาเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาว กล่าวว่า ปธน.ทรัมป์และคณะทำงาน ยังคงทำการศึกษาเกี่ยวกับการปลดพาวเวลออกจากตำแหน่ง
อย่างไรก็ดี พาวเวลยืนยันว่า ปธน.ทรัมป์ไม่มีอำนาจตามกฎหมายในการปลดเขาออกจากตำแหน่ง ก่อนที่จะครบวาระการดำรงตำแหน่งประธานเฟดในเดือนพ.ค. 2569
ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์
