ทองคำเผชิญแรงกดดัน เมื่อความเสี่ยงโลกลดระดับชั่วคราว
Gold Bullish
- Nvidia ปรับยุทธศาสตร์รุกจีนภายใต้ข้อจำกัดการส่งออก
- เวียดนามยกระดับการควบคุมไซเบอร์ รับมือภัยคุกคามข้ามพรมแดน
Gold Bearish
- ความตึงเครียดด้านภาษีการค้าผ่อนคลาย ฉุดแรงเก็งกำไรในทองคำ
- สหรัฐฯ เปิดทาง Nippon Steel เดินหน้าควบรวมเชิงยุทธศาสตร์
- ญี่ปุ่นงัดคลังสำรองอาหารรับมือภาวะเงินเฟ้อเชิงโครงสร้าง
ความตึงเครียดด้านภาษีการค้าผ่อนคลาย ฉุดแรงเก็งกำไรในทองคำ
ราคาทองคำในตลาดโลกปรับตัวลงอีกครั้ง หลังทำเนียบขาวมีท่าทีประนีประนอม โดยเลื่อนการจัดเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์จากยุโรป ซึ่งสะท้อนถึงสถานการณ์ที่มีการลดระดับความเปราะบางของเศรษฐกิจการค้าโลกชั่วคราว ส่งผลให้แรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์หลบภัยนั้นลดลงตามไปด้วย
สหรัฐฯ เปิดทาง Nippon Steel เดินหน้าควบรวมเชิงยุทธศาสตร์
การที่โดนัลด์ ทรัมป์ออกมาสนับสนุนดีลการควบรวมระหว่าง Nippon Steel และ U.S. Steel ไม่เพียงสะท้อนการเมืองแบบ Nationalist-oriented ที่ยึดมั่นในผลประโยชน์เชิงอุตสาหกรรมภายในประเทศ แต่ยังบ่งชี้ถึงในเชิงภูมิรัฐศาสตร์ที่สหรัฐฯ อาจใช้พันธมิตรญี่ปุ่นเป็นกลไกในการคานอำนาจจีนในสงครามโลหะยุคใหม่ แม้จะต้องเผชิญแรงต่อต้านจากฝ่ายนิติบัญญัติก็ตาม
Nvidia ปรับยุทธศาสตร์รุกจีนภายใต้ข้อจำกัดการส่งออก
Nvidia เตรียมปล่อยชิปประมวลผล AI รุ่นปรับแต่งพิเศษในตลาดจีน ภายใต้ชื่อ Blackwell
ซึ่งเป็นเวอร์ชันที่จำกัดสมรรถนะไว้ เพื่อหลบหลีกมาตรการควบคุมเทคโนโลยีขั้นสูงของสหรัฐฯ
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวสะท้อนแนวโน้มการแตกแขนงของ Supply Chain เทคโนโลยีระดับสูงระหว่างฝั่งตะวันตกกับตลาดเกิดใหม่ ซึ่งจะส่งผลระยะยาวต่อโครงสร้างอุปสงค์ของสินทรัพย์ปลอดภัย เช่น ทองคำ ซึ่งได้รับผลกระทบจากความเสี่ยงเชิงภูมิรัฐศาสตร์มาอย่างต่อเนื่อง
ญี่ปุ่นงัดคลังสำรองอาหารรับมือภาวะเงินเฟ้อเชิงโครงสร้าง
รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศระบายข้าวสำรองจากคลังกลางสู่ตลาดในราคาต่ำกว่าตลาดโดยเฉลี่ย เพื่อบรรเทาแรงกดดันเงินเฟ้อในภาคอาหาร ท่ามกลางภาวะต้นทุนพลังงานและค่าเงินเยนอ่อนค่าที่ยังไม่คลี่คลาย ถือเป็นการใช้กลไกรัฐแทรกแซงราคาอย่างตรงเป้า ซึ่งอาจสะท้อนภาวะ Inflation Anchoring ที่กำลังสั่นคลอนในประเทศพัฒนาแล้ว
เวียดนามยกระดับการควบคุมไซเบอร์ รับมือภัยคุกคามข้ามพรมแดน
การแบน Telegram โดยรัฐบาลเวียดนามสะท้อนความพยายามในการกำกับดูแลข้อมูลและสื่อสารผ่านแพลตฟอร์มเข้ารหัส ภายใต้แนวโน้ม Digital Sovereignty ที่กำลังก่อตัวในหลายประเทศกำลังพัฒนา โดยเฉพาะรัฐที่มีความเปราะบางต่ออาชญากรรมทางการเงินและความมั่นคงระดับชาติ
แนวโน้มราคาทองในสัปดาห์
อาทิตย์ก่อนหน้าราคาทองปรับตัวขึ้นมาแรงแต่ยังติดแนวต้านที่ระดับ 3,365 ดอลลาร์ ในช่วงต้นสัปดาห์นี้แม้ราคาจะเริ่มย่อตัวลงแต่ก็ยังมีแรงซื้อกลับ จึงแนะนำ Wait and See รอดูแนวโน้มราคาในช่วงต้นสัปดาห์ก่อน หากสามารถทะลุแนวต้านดังกล่าวได้อาจขึ้นทดสอบแนวต้านที่ระดับ 3,420 ดอลลาร์ (เทียบเท่าราคาทองแท่งในประเทศที่ 52,400 บาท) และหากหลุดแนวรับที่ 3,325 ดอลลาร์ อาจลงทดสอบแนวรับที่ระดับ 3,310 ดอลลาร์ (เทียบเท่าราคาทองแท่งในประเทศที่ 50,700 บาท) หากอิงค่าเงินบาทที่ 32.40 บาท