ข่าวสารการลงทุน

จากกระแส FOMO เป็น FOWO ทองคำน่าซื้อเก็บที่จุดไหน

07 พฤศจิกายน 2568|10:24 น.

โดยคุณศิริลักษณ์ ปโกฏิประภา
ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด

หลังจากราคาทองคำโลกปรับขึ้นยาวนานติดต่อกัน 9 สัปดาห์ ซึ่งเกิดขึ้นเพียง 5 ครั้งเท่านั้นนับตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1970 โดยครั้งล่าสุดเกิดขึ้นในเดือนมิ.ย.- เดือนส.ค.2563 ในที่สุดในปีนี้ทองคำไม่สามารถทำลายสถิติปรับขึ้นติดต่อกัน 10 สัปดาห์ได้ มีแรงเทขายอย่างหนักจาก All-time high ที่ 4,381 ดอลลาร์ ลงไปแตะที่ 3,886 ดอลลาร์ ปรับลดลง 11% ตลาดทองคำเริ่มเปลี่ยนจากปรากฎการณ์ FOMO (fear of missing out) เป็น ปรากฎการณ์ FOWO (fear of wipeout)  ความกลัวว่าจะติดดอย ความกลัวว่าจะขาดทุนมากขึ้นๆ  

2 ปัจจัยที่มองว่าควรติดตาม คือ การพิจารณาคดีภาษีนำเข้าแบบวงกว้างของทรัมป์ของศาลสูงสุดสหรัฐฯ และ จีนประกาศยกเลิกยกเว้นภาษีทองคำสำหรับผู้ค้าปลีก

ไม่ว่าศาลสูงสุดจะตัดสินอย่างไร ภาษีนำเข้าของทรัมป์คาดจะยังคงอยู่

ศาลสูงสุดสหรัฐฯ ได้นัดไต่สวนคดีภาษีนำเข้าแบบวงกว้างของประธานาธิบดีทรัมป์เมื่อวันที่ 5 พ.ย. ที่ผ่านมา ก่อนหน้านี้ศาลล่างตัดสินว่าทรัมป์ใช้อำนาจเกินขอบเขตตามกฎหมาย IEEPA ในการเก็บภาษีนำเข้าทั่วโลก รัฐธรรมนูญสหรัฐฯ กำหนดให้สภาคองเกรสเป็นฝ่ายที่มีอำนาจเก็บภาษีและกำหนดอัตราภาษีนำเข้า

การไต่สวนของศาลสูงสุด ผู้พิพากษาทั้งสายอนุรักษนิยมและเสรีนิยมตั้งคำถามอย่างเข้มข้นต่อรัฐบาลทรัมป์ การตีความกฎหมาย IEEPA ซึ่งตั้งใจให้ใช้เฉพาะในภาวะฉุกเฉินระดับชาติ แล้วให้อำนาจทรัมป์เก็บภาษีได้หรือไม่ หรือทรัมป์ได้ล่วงล้ำอำนาจของสภาคองเกรส ซึ่งตามรัฐธรรมนูญเป็นผู้มีอำนาจกำหนดภาษีนำเข้า ทั้งที่ก่อนหน้านี้มีการคาดการณ์ว่าศาลสูงสุดอาจจะตัดสินให้ทรัมป์ชนะหรืออย่างน้อยยืนยันอำนาจบางส่วน เนื่องจากศาลสูงสุดมีผู้พิพากษา 6 ใน 9 คนเป็นสายอนุรักษนิยมได้รับการแต่งตั้งจากพรรครีพับลิกัน แต่หลังฟังการไต่สวนแล้วมีโอกาสก้ำกึ่ง 50 : 50 ที่ศาลตัดสินให้ทรัมป์ชนะ

คำตัดสินของศาลสูงสุด vs. ราคาทองคำ

กรณีที่ 1  ศาลตัดสินว่าไม่ชอบด้วยกฎหมายและต้องคืนเงินภาษีนำเข้า รัฐบาลจะเปลี่ยนไปใช้กฎหมายอื่นเพื่อคงอัตราภาษี เช่น มาตรา 122 ของกฏหมายภาษีการค้าปี 1974 เก็บภาษีนำเข้าสูงสุด 15% เป็นเวลา 150 วัน มาตรา 338 ของกฏหมายภาษีการค้าปี 1930  เก็บภาษีนำเข้าสูงสุด 50% สำหรับประเทศที่เลือกปฏิบัติทางการค้า ในช่วงแรกราคาทองอาจย่อตัวลง เนื่องจากตลาดอาจประเมินสงครามการค้าอาจลดลง ต้องยกเลิกภาษีนำเข้าที่ได้มีการเจรจากับประเทศคู่ค้าและบังคับใช้ไปแล้ว แต่ในที่สุดคาดสงครามการค้ายังเกิดขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากศาลตัดสินให้คืนเงินภาษีนำเข้า คาดจะกระทบต่อตลาดพันธบัตรสหรัฐ และฐานะการคลังของรัฐบาลสหรัฐฯ สั่นคลอน เนื่องจากต้องคืนเงินภาษีสูงถึงราว 1 แสนล้านดอลลาร์ พร้อมดอกเบี้ย 6% ต่อปี อาจทำให้ราคาทองคำพุ่งขึ้นแรงได้ เนื่องจากความไม่แน่นอนต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯและเศรษฐกิจโลกกลับมามากขึ้น

กรณีที่ 2 ศาลตัดสินว่าชอบด้วยกฎหมาย ภาษีนำเข้ายังคงดำเนินต่อไป ซึ่งมีอัตราภาษีตามที่สหรัฐฯ ได้มีการเจรจาการค้ากับประเทศคู่ค้าก่อนหน้านี้แล้ว อาจไม่ได้กระทบต่อราคาทองคำมากนัก

ตราบใดที่ภาษีนำเข้าของทรัมป์ต้องรอคำตัดสินของศาลสูงสุด อาจต้องใช้เวลาหลายเดือนในการพิจารณาคดี ในช่วงเวลาดังกล่าวจะทำให้เกิดความไม่แน่นอนต่อเศรษฐกิจโลก และทำให้มีแรงซื้อทองคำเพื่อกระจายความเสี่ยงกลับเข้ามาในช่วงที่ราคาทองมีการปรับฐานลง

จีนยุติยกเว้นภาษีทองคำสำหรับผู้ค้าปลีก ความต้องการทองจะลดลง?

จีนประกาศจะไม่อนุญาตให้ผู้ค้าปลีกหักภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) จากการขายทองคำ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 1 พ.ย.2568- 31ธ.ค.2570 ระยะสั้นดูเผินๆ อาจจะส่งผลกระทบต่อความต้องการทองคำลดลง เนื่องจากจีนเป็นผู้ใช้ทองคำรายใหญ่ของโลก ในช่วง 9 เดือนของปีนี้จีนมีสัดส่วนถึง 1 ใน 3  ของความต้องการทองแท่งทั่วโลก และมีสัดส่วน 27% ของความต้องการเพื่อใช้เป็นเครื่องประดับทั่วโลก แต่เมื่อเจาะลึกรายละเอียดนโยบายดังกล่าว อาจจะส่งผลกระทบต่อความต้องการทองคำไม่ได้ลดลงมากอย่างที่ตลาดกังวลก็ได้ ที่สำคัญจะส่งผลดีต่อการพัฒนาตลาดทองคำของจีนในอนาคต

  1. ยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ที่ทำผ่านตลาดซื้อขายทองคำเซี่ยงไฮ้ และตลาดซื้อขายล่วงหน้าเซี่ยงไฮ้ และยังไม่เกิดการส่งมอบทองคำจริงออกจากคลัง
  2. หากเกิดการส่งมอบทองคำจริงแล้วจะต้องเสีย VAT ตามเกณฑ์ที่กำหนดขึ้นอยู่กับเป็นทองคำเพื่อการลงทุน หรือทองคำที่ใช้ในการผลิต
  3. ทองคำเพื่อการลงทุน จะเสีย VAT แต่มีการคืน VAT พร้อมยกเว้นภาษีเมืองและค่าธรรมเนียมการศึกษา
  4. ทองคำที่ใช้งานจริง เช่น โรงงาน เครื่องประดับ ยกเว้น VAT
  5. ธุรกรรมทองคำนอกตลาด เช่น OTC หรือมีการนำเข้าส่งออกโดยตรง ต้องเสีย VAT

โดยสรุปกลุ่มผู้ค้าปลีกทองคำในจีนที่ไม่ได้ทำธุรกรรมผ่านตลาดทั้งตลาด Spot และตลาดล่วงหน้าเซี่ยงไฮ้  จะไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ด้านภาษี ทางการจีนอาจพยายามผลักดันให้นักลงทุนสถาบันและผู้ค้าปลีกทองคำซื้อขายผ่านตลาดมากขึ้นและเสริมสภาพคล่อง เพื่อได้รับสิทธิประโยชน์ด้านภาษีและมีต้นทุนลดลง ไม่ต้องผลักภาระให้ผู้บริโภค

ราคาทองคำถูกหรือแพง เทียบกับ SMA 200 วัน

ช่วงที่ราคาทองปรับขึ้นร้อนแรงในเดือนต.ค. ทำให้เกิดคำถามมากมายว่าราคาทองคำเกิดภาวะฟองสบู่หรือไม่ แพงเกินไปที่จะเข้าซื้อหรือไม่ เป็นคำถามที่ตอบได้ยากเพราะไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ที่ทองขึ้นไม่หยุดกว่า 1 พันดอลลาร์ ในช่วง 9 สัปดาห์ ทั้งที่เครื่องมือทางเทคนิคเกิดสัญญาณซื้อมากเกินไปแล้ว เลยหาวิธีในการประเมินว่าราคาทองคำถูกหรือแพงเมื่อเทียบกับเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (SMA) 200 วัน

สถิติที่ผ่านมาในช่วงที่ราคาทองคำร้อนแรงมากๆ ราคาทองคำสูงกว่า SMA 200 วันราว 25% ดังนั้นเมื่อไรก็ตามที่สูงกว่าก็อาจเป็นเตือนว่าต้องระมัดระวังในการลงทุน ราคาทองแพงมากๆ แล้ว ซึ่งในช่วงวันที่ 8 ต.ค.-20 ต.ค.2568 ราคาทองคำสูงกว่า SMA 200 วันมากถึง 25-33%

สำหรับระดับราคาทองที่มองว่าเป็นจุดน่าทยอยสะสม คือ ราคาทองคำสูงกว่า SMA 200 วัน ราว 10-15%  SMA 200 วัน ณ.วันที่ 6 พ.ย. 2568 อยู่ที่ 3,373 ดอลลาร์ ดังนั้นถ้าประเมินด้วยวิธีนี้กรอบราคาทองโลกที่แนะนำทยอยสะสมคือ 3,710-3,880 ดอลลาร์  ราคาทองไทยประมาณ 58,000-59,800 บาท นอกจากนี้ปีนี้ราคาทองคำโลกยืนเหนือเส้น SMA 100 วัน จุดแนวรับที่น่าสนใจคือ 3,600 ดอลลาร์ ราคาทองไทยประมาณ 57,000 บาท

ราคาทองคำโลกและ SMA 200 วัน

image 77
ที่มา : Aspen
Picture1071168
ที่มา : ฮั่วเซ่งเฮง

ดาวน์โหลดเอกสาร

แชร์บทความนี้

บทความที่เกี่ยวข้อง

 
Gold Outlook dec 25

ทองคำหลังการประชุมเฟดครั้งสุดท้ายของปี ย่อลงมาเพื่อซื้อ

08:00 น.

 
xi marcon

“สี” หารือ “มาครง” ที่ปักกิ่ง ถกปมไต้หวัน-ยูเครน ท่ามกลางวิวาทะจีน-ญี่ปุ่น

15:03 น.

 
BOJ

BOJ ยังไม่ฟันธงปรับขึ้นดอกเบี้ยถึงระดับใด เหตุยากจะประเมินอัตราดอกเบี้ยที่เป็นกลาง

14:31 น.

 
Howard Lutnick

“ลุตนิก” ยันภาคเอกชนลดการจ้างงานในเดือนพ.ย.ไม่เกี่ยวภาษี “ทรัมป์”

08:59 น.

คำถามที่พบบ่อย

เกี่ยวกับเรา

พูดคุยกับเรา

พบเจอปัญหา หรือมีข้อสงสัย
ทักหาเราได้เลยที่นี่

เวลาทำการลูกค้าสัมพันธ์
จันทร์ - ศุกร์ 08.30 น. - 24.00 น.
เสาร์ - อาทิตย์ 08.30 น. - 17.30 น.

For the best experience, we recommend viewing the site in portrait orientation on mobile devices.

ไอคอน PDPA

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งาน กรุณาดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และตั้งค่าคุกกี้ได้ที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

You can choose your cookie settings by enabling/disabling cookies for each category as needed, except for necessary cookies.

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็นสำหรับการทำงานพื้นฐานของเว็บไซต์
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้เหล่านี้จำเป็นสำหรับการทำงานพื้นฐานของเว็บไซต์ เช่น การรักษาการล็อกอินของผู้ใช้ การบันทึกสินค้าที่เพิ่มลงในรถเข็น และการบันทึกการตั้งค่าภาษา
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้วิเคราะห์เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งาน

    คุกกี้เหล่านี้ใช้เพื่อรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการใช้งานเว็บไซต์ เช่น จำนวนผู้เข้าชม, หน้าเว็บที่ได้รับความนิยม และพฤติกรรมการท่องเว็บ ซึ่งช่วยให้เจ้าของเว็บไซต์ปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้การทำงานเพื่อจดจำการตั้งค่าผู้ใช้

    คุกกี้เหล่านี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานเว็บไซต์ โดยจดจำการตั้งค่าที่ผู้ใช้เคยกำหนดไว้ เช่น ชื่อผู้ใช้, ภาษา, ภูมิภาค หรือการปรับแต่งเว็บไซต์ตามความต้องการ
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้ของบุคคลที่สามเพื่อการวิเคราะห์และการตลาด

    คุกกี้เหล่านี้ถูกตั้งค่าโดยบุคคลที่สาม เช่น ผู้ให้บริการวิเคราะห์ข้อมูลหรือผู้ให้บริการโฆษณา และใช้เพื่อวัตถุประสงค์ต่าง ๆ เช่น การวิเคราะห์เว็บไซต์และการทำการตลาด
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้โฆษณาเพื่อแสดงโฆษณาที่ตรงกับความสนใจ

    คุกกี้เหล่านี้ใช้เพื่อติดตามการใช้งานของผู้ใช้บนเว็บไซต์ต่าง ๆ และแสดงโฆษณาที่ตรงกับความสนใจของผู้ใช้มากขึ้น ซึ่งมักจะใช้โดยเครือข่ายโฆษณาภายนอก
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า