แนวโน้มราคาทอง
Sideway Up
- ทองขึ้น +$33.33 จากยีลด์ / ดอลลาร์ร่วง และ
แฮสเซ็ตต์อาจเป็นประธานเฟดคนต่อไปแทนพาวเวล
Gold spot
สูงสุด – 4,173 ดอลลาร์
ต่ำสุด – 4,129 ดอลลาร์
ราคาทองคำแท่ง
สูงสุด – 63,550 บาท
ต่ำสุด – 63,350 บาท
ภาพการเคลื่อนไหวที่ผ่านมา
ทองโลกมีการทรงตัวขึ้น จากการที่ดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) ได้ปรับตัวลงเป็นวันที่ 2 สู่ระดับ 99.56 หน่วย จาก 100.21 หน่วย อีกทั้งบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ อายุ 10 ปี ได้ปรับตัวลงเป็นวันที่ 5 สู่ระดับ 3.99% จาก 4.14% สืบเนื่องมาจากตลาด CME FedWatch ได้คาดการณ์ถึง 84.9% ว่าเฟดอาจลดดอกเบี้ย 0.25% ในเดือนธ.ค.นี้ และคาดการณ์ว่าเฟดอาจตรึงดอกเบี้ยเพียง 15.1% ในขณะที่นายเควิน แฮสเซ็ตต์ ผู้อำนวยการสภาเศรษฐกิจแห่งชาติทำเนียบขาวของปธน.ทรัมป์ อาจเป็นหมากสำคัญที่จะดำรงตำแหน่งประธานเฟดคนต่อไป ต่อจากนายเจอโรม พาวเวล ที่กำลังหมดวาระประธานเฟดในเดือนพ.ค. 2026 โดยทางแฮสเซ็ตต์ได้แสดงความเห็นไปในทิศทางเดียวกันกับปธน.ทรัมป์ที่ต้องการให้เฟดลดดอกเบี้ยลงอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม เมื่อวันพุธ สหรัฐฯ ได้เผยตัวเลขผู้ขอยื่นสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์น้อยกว่านักวิเคราะห์คาดการณ์ / ครั้งก่อน ส่งผลให้ในระยะสั้น ตลาดแรงงานอาจไม่ได้อ่อนแอย่างที่นักวิเคราะห์คาดคิด ทางด้านกองทุน SPDR ซื้อทองคำ 4.57 ตัน รวมสุทธิ 1,045.43 ตัน
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
คืนนี้ไม่มีการประกาศตัวเลขทางเศรษฐกิจ
วิเคราะห์ราคาทอง
ราคาทองโลกได้ปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 4,170 ดอลลาร์ และอาจมีการย่อตัวลง จึงประเมินว่า ทองโลกอาจปรับตัวลงทดสอบแนวรับที่ 4,130 ดอลลาร์ และมีโอกาสฟื้นตัวขึ้นอีกครั้งในภายหลัง แต่หากทองโลกหลุดแนวรับถัดไปที่ 4,110 ดอลลาร์ ทองโลกอาจกลับมา Sideway เช่นเดิม
ราคาทองคำโลก
แนวรับ : 4,130 และ 4,110 ดอลลาร์
แนวต้าน : 4,170 และ 4,180 ดอลลาร์
ทองโลกเริ่มทยอยฟื้นตัวขึ้น จึงแนะนำใช้กลยุทธ์ทยอยขายตามแนวต้านที่ระดับ 4,170ดอลลาร์ และซื้อสะสมหากราคาลงทดสอบแนวรับที่ 4,130 ดอลลาร์ แต่หากราคาหลุดแนวรับที่ 4,110 ดอลลาร์ ลงไป แนะนำขายตัดขาดทุน
ราคาทองคำแท่ง 96.5%
แนวรับ : 63,100 และ 62,800 บาท
แนวต้าน : 63,500 และ 63,600 บาท
ราคาทองในประเทศมีการย่อตัวลงระยะสั้นตามทองโลก ในขณะที่ค่าเงินบาทแข็งค่า
จึงแนะนำทยอยขายตามแนวต้านที่ระดับ 63,500 และทยอยซื้อตามแนวรับที่ 63,100 บาท แต่หากราคาหลุดแนวรับที่ 62,800 บาท ลงไป แนะนำขายตัดขาดทุน











