โดยคุณศิริลักษณ์ ปโกฏิประภา
ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด
เดือนพฤศจิกายนราคาทองคำอยู่ในช่วงของการปรับฐาน หลังจากที่ราคาทองคำขึ้นแรงทำ All time high ที่ 4,381 ดอลลาร์ ในวันที่ 20 ตุลาคม ราคาทองคำมีความผันผวนตามการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธันวาคมหรือไม่ ในช่วง 2 สัปดาห์ก่อนการประชุมเฟดวันที่ 9- 10 ธันวาคมตลาดเริ่มเปลี่ยนมุมมองว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยและล่าสุด (วันที่ 4 ธันวาคม) มีโอกาสความเป็นไปได้สูงถึง 87% ที่จะลดดอกเบี้ยในเดือนธันวาคม นอกจากนี้มีการคาดหวังแนวโน้มการลดดอกเบี้ยเฟดจะเป็นเชิงรุกมากขึ้น หลังมีการคาดเป็นวงกว้างถึงตัวเก็งประธานเฟดคนใหม่เป็นเควิน แฮสเซตต์ ที่ปรึกษาตยสนิทของทรัมป์ ปัจจุบันเป็นผู้อำนวยการสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจแห่งชาติ (NEC) เควิน แฮสเซตต์ มีแนวนโยบาย Supply Side เน้นการผลิต ลดภาษี ลดกฎระเบียบ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของทรัมป์ 2.0 ที่ผ่านมาเห็นด้วยกับทรัมป์เรื่องนโยบายดอกเบี้ยด้วยว่าควรจะต้องลดดอกเบี้ยแรง เคยให้ความเห็นว่าถ้าได้เป็นประธานเฟดจะผลักดันให้ลดดอกเบี้ยอย่างเร็ว ส่งผลให้มีแรงซื้อเก็งกำไรทองคำอย่างต่อเนื่องและราคาทองคำปรับขึ้นทำจุดสูงสุดในรอบ 6 สัปดาห์
ตลาดแรงงานสหรัฐฯ อ่อนแอ หนุนเฟดลดดอกเบี้ย
หลัง Government Shutdown สิ้นสุดลง นักลงทุนรอดูข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่สำคัญคือการจ้างงานและเงินเฟ้อ ถึงแม้ว่าการจ้างงาน NFP เดือนกันยายนออกมายังแข็งแกร่ง เพิ่มขึ้น 119,000 ตำแหน่งสูงกว่าตลาดคาดก็ตาม แต่จะไม่เปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจเดือนตุลาคมทั้งการจ้างงานและเงินเฟ้อ ส่วนเดือนพฤศจิกายนซึ่งภาวะปกติจะต้องประกาศการจ้างงาน NFP วันที่ 5 ธันวาคม แต่กลับเลื่อนเป็น 16 ธันวาคมหลังการประชุมเฟด ทำให้เฟดอาจจำเป็นต้องพึ่งตัวเลขการจ้างงาน ADP เพื่อเป็นแนวทางตัดสินใจเรื่องดอกเบี้ย ซึ่งการจ้างงาน ADP เดือนตุลาคมเพิ่มขึ้น 47,000 ตำแหน่ง แต่เดือนพฤศจิกายนที่ประกาศกลับลดลง 32,000 ตำแหน่ง สะท้อนถึงมีการปลดพนักงานจำนวนมาก ตลาดแรงงานอ่อนแอลง หนุนเฟดลดดอกเบี้ยมากขึ้น สำหรับเงินเฟ้อ CPI เดือนพฤศจิกายนกำหนดประกาศวันที่ 19 ธันวาคม
ระวังแรงเทขายทองคำหลังประชุมเฟด
3 ประเด็นที่ต้องติดตามในการประชุมครั้งสุดท้ายของปีนี้
- ผลการประชุมเฟด คาดว่าเฟดมีมติลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% เหลือ 3.50-3.75% เป็นไปตามที่ตลาดคาด อาจจะไม่ได้กระทบต่อราคาทองคำมากนัก
- Dot Plot และประมาณการตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ สำหรับ Dot Plot เดือนกันยายนสะท้อนให้เห็นว่าเฟดจะปรับลดดอกเบี้ยในปี 2569 และ 2570 เพียงปีละ 1 ครั้งหรือ 0.25% แต่ตลาดคาดปีหน้าเฟดจะลดดอกเบี้ย 2-3 ครั้ง เราคาดเป็นไปได้ว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยในปีหน้า 1 ครั้งเหมือนเดิม เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาจจะขยายตัวสูงกว่าเฟดประเมินไว้ ซึ่งเป็นผลจากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานอย่างมหาศาลของหุ้นกลุ่ม AI ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ นอกจากนี้กรรมการ FOMC บางท่านอาจเป็นห่วงเงินเฟ้อที่สูงกว่าเงินเฟ้อเป้าหมายมากว่า 4 ปีแล้ว
- การแถลงของพาวเวล ประธานเฟด ถึงแนวโน้มดอกเบี้ยในปีหน้า ซึ่งในการประชุมครั้งที่ผ่านมาในเดือนกันยายนและเดือนตุลาคม ประธานเฟดส่งสัญญาณไม่ชัดเจนถึงทิศทางดอกเบี้ย มีผลให้มีแรงเทขายทองคำออกมา เราคาดว่าหลังการประชุมเฟดครั้งสุดท้ายของปีนี้อาจจะมีแรงเทขายทำกำไรเช่นกัน เนื่องจากราคาทองคำเพิ่มขึ้นราว 260 ดอลลาร์จากการเก็งกำไรเรื่องเฟดลดดอกเบี้ย ทำให้คาดจะเกิด Sell on fact และตลาดน่าจะผิดหวังจากการแถลงของพาวเวล ซึ่งหลังประชุมเฟดวันที่ 16-17 กันยายนราคาทองคำผันผวนราว 50 ดอลลาร์ วันที่ 28-29 ตุลาคมมีความผันผวนราว 100 ดอลลาร์
ราคาทองคำกับการประชุมเฟดในปีนี้
เดือนธันวาคมราคาทองคำคาดฟื้นตัว
ในเดือนพฤศจิกายนโดยส่วนใหญ่ราคาทองคำอยู่ในช่วงของการปรับฐานและปรับลดลง ขณะที่ในช่วงครึ่งเดือนหลังของเดือนธันวาคมโดยปกติมีแรงซื้อกลับเข้ามา ซึ่งผลตอบแทนของทอง Spot เดือนธันวาคมเฉลี่ย 3 ปี 5 ปี และ 10 ปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 1.16% 2.69% และ 2.2% ซึ่งให้ผลตอบแทนใช้ได้ทีเดียว ถึงแม้ว่าราคาทองคำตอนนี้แพงแล้วก็ตาม แต่คาดว่าจะยังคงมีแรงซื้อกลับเข้ามาในครึ่งเดือนหลังต่อเนื่องไปจนถึงเดือนมกราคมของปีหน้า แต่อาจจะไม่ได้หนาแน่นมากเหมือนทุกปี ดังนั้นแนะนำให้เข้าซื้อสะสมเมื่อราคาทองคำย่อลงมา จุดเข้าซื้อทอง Spot ที่ 4,100- 4,130 ดอลลาร์ ราคาทองไทยราว 62,500-62,800 บาท กรณีมีแรงเทขายทองคำอย่างหนักจนหลุด 4,100 ดอลลาร์ แนะนำเข้าซื้อเก็บที่ทอง Spot แนวรับ 4,000 ดอลลาร์ ราคาทองไทย 61,500 บาท
ผลตอบแทนของทอง Spot รายเดือน










