แนวโน้มราคาทอง
ขาขึ้น
- ทองปรับตัวขึ้น +$ 65.08 ขานรับสหรัฐฯ ชัตดาวน์
เป็นวันที่ 8 ขณะที่ดอลลาร์แข็ง-เยนอ่อนค่า
Gold spot
สูงสุด – 4,058 ดอลลาร์
ต่ำสุด – 3,983 ดอลลาร์
ราคาทองคำแท่ง
สูงสุด – 62,350 บาท
ต่ำสุด – 61,450 บาท
ภาพการเคลื่อนไหวที่ผ่านมา
ทองโลกได้มีการปรับตัวขึ้น จากการที่สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่าเจ้าหน้าที่รัฐกว่า 250,000 คนไม่ได้รับเงินเดือนตามกำหนดในสัปดาห์นี้ เนื่องจากรัฐบาลสหรัฐฯ เข้าสู่ภาวะชัตดาวน์เป็นสัปดาห์ที่ 2 และหากภาวะชัตดาวน์ยืดเยื้อไปจนถึงสัปดาห์ที่ 3 จะมีเจ้าหน้าที่รัฐฯ อีก 2 ล้านคนที่ไม่ได้รับเงินเดือน ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวอาจส่งผลให้ภาวะตลาดแรงงานสหรัฐฯ อ่อนแอ ในขณะที่นาย Ray Dalio ผู้ก่อตั้งกองทุน Hedge Funds ของ Bridgewater Associates ได้แนะนำให้นักลงทุนสะสมทองคำถึง 15% ของพอร์ตการลงทุน เพื่อป้องกันภาวะเงินเฟ้อท่ามกลางการลดดอกเบี้ยของเฟด การอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ และภาระหนี้สหรัฐฯ ที่ไร้การควบคุม อย่างไรก็ตาม ดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) ได้ปรับตัวขึ้นเป็นวันที่ 3 สู่ระดับ 98.82 หน่วย จาก 97.95 หน่วย โดยยังคงสืบเนื่องมาจากเงินเยนอ่อนค่าหลังจากตลาดกังวลแนวโน้มการผ่อนคลายนโยบายการเงินและการคลังของญี่ปุ่น และเงินยูโรอ่อนค่าจากภาวะไร้เสถียรภาพทางการเมืองในฝรั่งเศส หลังจากที่นายเซบาสเตียน เลอกอร์นู นายกรัฐมนตรีฝรั่งเศส ประกาศลาออกจากตำแหน่ง ทางด้านกองทุน SPDR ซื้อทองคำ 1.43 ตัน รวมสุทธิ 1,014.58 ตัน
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
วันนี้ไม่มีการประกาศตัวเลขทางเศรษฐกิจ
วิเคราะห์ราคาทอง
ในระยะสั้น ทองโลกได้ปรับตัวลงทดสอบแนวรับที่ 4,000 ดอลลาร์ และมีการฟื้นตัวขึ้นในภายหลัง
จึงประเมินว่า ทองโลกอาจปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 4,040 และ 4,058 ดอลลาร์ แต่หากทองโลกหลุดแนวรับถัดไปที่ 3,983 ดอลลาร์ ทองโลกอาจเข้าสู่การปรับฐานลงระยะสั้น
ราคาทองคำโลก
แนวรับ : 4,000 และ 3,983 ดอลลาร์
แนวต้าน : 4,040 และ 4,058 ดอลลาร์
ทองโลกมีการปรับตัวลงระยะสั้น จึงแนะนำใช้กลยุทธ์ย่อเก็บสะสมจากแนวรับที่ระดับ 4,000 ดอลลาร์ และขายทำกำไรหากราคาขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 4,040 ดอลลาร์ แต่หากราคาหลุดแนวรับที่ 3,983 ดอลลาร์ แนะนำขายตัดขาดทุน
ราคาทองคำแท่ง 96.5%
แนวรับ : 61,800 และ 61,650 บาท
แนวต้าน : 62,200 และ 62,400 บาท
ราคาทองในประเทศมีการปรับตัวลงระยะสั้น ตามทองโลก ในขณะที่ค่าเงินบาทอ่อนค่าเป็นวันที่ 3 จึงแนะนำซื้อสะสมตามแนวรับที่ระดับ 61,800 และขายทำกำไรตามแนวต้านที่ 62,200 บาท แต่หากราคาหลุดแนวรับที่ 61,650 บาท แนะนำขายตัดขาดทุน
