แนวโน้มราคาทอง
All-time High
- ทองปิดบวก $28.64 ขานรับ ดอลลาร์ดิ่งลง ,
เฟดถูกกดดัน และทรัมป์เมินอินเดีย
Gold spot
สูงสุด – 3,489 ดอลลาร์
ต่ำสุด – 3,437 ดอลลาร์
ราคาทองคำแท่ง
สูงสุด – 53,200 บาท
ต่ำสุด – 52,800 บาท
ภาพการเคลื่อนไหวที่ผ่านมา
ทองโลกอยู่ในระยะขาขึ้นต่อเนื่อง จากการที่ ดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) ยังคงปรับตัวลงเป็นวันที่ 5 ติดต่อกันลงสู่ระดับ 97.7 หน่วย จากระดับสูงสุดที่ 98.4 หน่วย อีกทั้งตลาด CME FedWatch ได้ออกมาคาดการณ์ว่า มีโอกาส 89% จากเดิมที่ 87% ว่าเฟดมีแนวโน้มลดดอกเบี้ย 0.25% ในเดือนนี้ ในขณะที่ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) นามว่า คริสติน ลาการ์ด ได้ออกมาเตือนว่า ความต้องการปลดนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด หรือนางลิซ่า คุก ผู้ว่าเฟด ถือเป็นอันตรายอย่างร้ายแรงต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ และเศรษฐกิจโลก เนื่องจากสหรัฐฯ มีความเชื่อมโยงกับเศรษฐกิจโลกสูงมาก ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ทางฝั่งอินเดียได้มีการเสนอลดภาษีนำเข้าจนเหลือ 0% ต่อสหรัฐฯ แต่ ปธน.ทรัมป์ได้กล่าวว่า “สายเกินไปแล้ว พวกเขาน่าจะทำไปตั้งนานแล้ว ในขณะที่วันพฤหัสบดีที่จะมาถึงนี้ ทางวุฒิสภาจะมีการเสนอชื่อนายสตีเฟน มีแรน ผู้ว่าการเฟดคนใหม่ที่เข้ามาแทนนาง เอเดรียนา คูเกอร์ ซึ่งจะส่งผลให้มีผู้ว่าเฟดที่มีแนวโน้มกดดันให้เฟดลดดอกเบี้ย 3 คน จาก 11 คน ทางด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำเท่าเดิม รวมสุทธิ 977.68 ตัน
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
คืนนี้เวลา 21.00 น. สหรัฐฯ เผยดัชนี PMI ภาคการผลิตจาก ISM เดือนส.ค. และ ดัชนีราคาภาคการผลิตจาก ISM เดือนส.ค.
วิเคราะห์ราคาทอง
ราคาทองโลกอยู่ในระยะขาขึ้นต่อเนื่อง แต่ระยะสั้นมีแนวโน้มไม่สามารถทะลุผ่านแนวต้านที่ 3,500 ดอลลาร์ จึงประเมินว่า ทองโลกมีโอกาสปรับตัวลงระยะสั้นทดสอบแนวรับที่ 3,470 ดอลลาร์ และอาจฟื้นตัวเป็นขาขึ้นต่อ แต่หากทองโลกหลุดแนวรับถัดไปที่ 3,450 ดอลลาร์ ทองโลกอาจกลับสู่ระยะปรับฐานลง
ราคาทองตลาดโลก
แนวรับ : 3,470 และ 3,450 ดอลลาร์
แนวต้าน : 3,500 และ 3,520 ดอลลาร์
ราคาทองโลกอยู่ในระยะขาขึ้น แนะนำใช้
กลยุทธ์ย่อเก็บสะสมจากแนวรับที่ระดับ 3,470 ดอลลาร์ และขายทำกำไรหากราคาขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 3,500 ดอลลาร์ อีกครั้ง แต่หากราคาหลุดแนวรับที่ 3,450 ดอลลาร์ แนะนำขายตัดขาดทุนไปก่อน
ราคาทองคำแท่ง 96.5%
แนวรับ : 53,050 และ 52,850 บาท
แนวต้าน : 53,350 และ 53,550 บาท
ราคาทองในประเทศอยู่ในระยะขาขึ้นตามทองโลก ในขณะที่ค่าเงินบาทกลับมาแข็งค่าจึงแนะนำเข้าซื้อสะสมแนวรับที่ระดับ 53,050 บาท และขายทำกำไรหากราคาทดสอบแนวต้านที่ 53,350 บาท แต่หากราคาหลุดแนวรับที่ 52,850 บาท ลงไป แนะนำขายตัดขาดทุน
