แนวโน้มราคาทอง
Sideway Down
- ทองคำฟื้นตัวระยะสั้น ท่ามกลางสงครามยูเครน
ที่ยังไม่คลี่คลาย และความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อ
Gold spot
สูงสุด – 3,358 ดอลลาร์
ต่ำสุด – 3,323 ดอลลาร์
ราคาทองคำแท่ง
สูงสุด – 51,500 บาท
ต่ำสุด – 51,350 บาท
ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา
ทองโลกมีการฟื้นตัวระยะสั้น จากการที่ตลาดยังคงจับตาความไม่แน่นอนระหว่าง ปธน.ทรัมป์ – ปธน.ปูตินที่ยังไม่สามารถหาข้อสรุปเพื่อยุติสงครามในยูเครนได้ อีกทั้งทรัมป์ยังไม่แสดงท่าทีที่การคว่ำบาตรรัสเซียแต่อย่างใด ในขณะที่ทางปูตินได้ยื่นข้อเสนอให้ยูเครนยกเลิกนโยบายในการเข้าร่วม NATO และยกพื้นที่ภูมิภาคดอนบาสเพื่อแลกกับสันติภาพ แต่ปธน.เซเลนสกียังไม่ตอบรับข้อเสนอดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ดัชนีเงินดอลลาร์(DXY) ได้เริ่มแข็งค่า หลังตลาด CME FedWatch ได้ออกมาปรับเปลี่ยนการคาดการณ์ “คงดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.” ถึง 45% ในขณะที่หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จากธนาคารยักษ์ใหญ่อย่าง Morgan Stanley ได้กล่าวว่า ตลาดกำลังประเมินตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ ต่ำเกินไป และทางฝั่งนักเศรษฐศาสตร์จาก ITR Economics ได้กล่าวว่า เงินเฟ้อที่สูงขึ้นอาจต้องใช้ระยะเวลาระยะหนึ่งจนกว่าจะเห็นผล โดยมีความเสี่ยงมากกว่าตลาดแรงงานที่ชะลอตัว ซึ่งคำกล่าวข้างต้นนั้น มีความสอดคล้องกับธนาคารยักษ์ใหญ่สหรัฐฯ อย่าง Bank Of America ที่ได้ให้มุมมองไว้ก่อนหน้านี้ว่า “เงินเฟ้อยังมีแนวโน้มสูงขึ้นในอนาคต และอาจทำให้เฟดลดคงดอกเบี้ยในปีนี้”
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
คืนนี้ไม่มีการประกาศตัวเลขทางเศรษฐกิจ
วิเคราะห์ราคาทอง
ช่วงบ่าย ราคาทองโลกสามารถฟื้นตัวขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 3,358 ดอลลาร์ และมีการย่อตัว จึงประเมินว่าในระยะสั้น ทองโลกมีโอกาสปรับตัวลงทดสอบแนวรับที่ 3,325 ดอลลาร์ และการมีการฟื้นตัวกลับขึ้นไปอีกครั้งแต่หากหลุดแนวรับถัดไปที่ 3,310 ดอลลาร์ ทองโลกอาจเสี่ยงเข้าสู่ระยะขาลง
ราคาทองตลาดโลก
แนวรับ 3,323 และ 3,310 ดอลลาร์
แนวต้าน 3,358 และ 3,370 ดอลลาร์
ทองโลกยังคงแกว่งตัวในกรอบแนบรับ -แนวต้าน แนะนำใช้กลยุทธ์เข้าซื้อสะสมตามแนวรับที่ระดับ 3,323 ดอลลาร์ และขายทำกำไรหากราคาขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 3,358 ดอลลาร์ แต่หากราคาหลุดแนวรับที่ 3,310 ดอลลาร์ แนะนำขายตัดขาดทุน
ราคาทองคำแท่ง 96.5%
แนวรับ 51,100 และ 51,000 บาท
แนวต้าน 51,500 และ 51,600 บาท
ราคาทองในประเทศอยู่ในระยะ Sideway ตามทองโลก ในขณะที่ค่าเงินบาทยังคงแกว่งตัว จึงแนะนำเข้าซื้อสะสมแนวรับที่ระดับ 51,100 บาท และขายทำกำไรหากราคาทดสอบแนวต้านที่ 51,500 บาท แต่หากราคาหลุดแนวรับที่ 51,000 บาท ลงไป แนะนำขายตัดขาดทุน
