แนวโน้มราคาทอง
Sideway กรอบแคบ
- ลัตนิก รมว.พาณิชย์ ย้ำเส้นตายภาษี 1 ส.ค.
- แหล่งข่าวเผยทรัมป์อาจเข้าพบ สี จิ้นผิง
Gold spot
สูงสุด – 3,370 ดอลลาร์
ต่ำสุด – 3,338 ดอลลาร์
ราคาทองคำแท่ง
สูงสุด – 51,600 บาท
ต่ำสุด – 51,450 บาท
ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา
ราคาทองโลกไต่ระดับขึ้นเป็นวันที่ 2 คาดการณ์ตลาดยังจับตาความไม่แน่นอนของภาษีการค้าสหรัฐฯ หลังจากนายโฮเวิร์ด ลัตนิก รมว. กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ได้กล่าวว่า “ไม่มีอะไรห้ามไม่ให้ประเทศทั้งหลายมาคุยกับเราหลังวันที่ 1 ส.ค. แต่พวกเขาต้องเริ่มจ่ายภาษีในวันที่ 1 ส.ค.” ในขณะที่มีแหล่งข่าวจาก เซาท์ ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์ (South China Morning Post) รายงานว่า ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ อาจเดินทางเยือนประเทศจีนเพื่อเข้าพบ ปธน.สี จิ้นผิง ก่อนเข้าร่วมการประชุมสุดยอดความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (APEC) ระหว่างวันที่ 30 ต.ค. – 1 พ.ย. หรืออาจพบกับ ปธน.สี จิ้นผิง ในระหว่างการประชุม APEC ที่เกาหลีใต้ เพื่อแก้ไขข้อพิพาทด้านภาษีการค้าให้มีความสมดุลทั้งจีน – สหรัฐฯ ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ รายงานของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เมื่อเดือน พ.ค. 2568 ระบุว่า ระหว่างต้นปี 2565 ถึง ไตรมาสที่ 2 ปี 2567 สินเชื่อต่างประเทศสกุลเงินดอลลาร์ในประเทศตลาดเกิดใหม่ (Emerging Market) ในเอเชีย ลดลง 16% โดยเฉพาะจากธนาคารจีนที่เคยปล่อยกู้เป็นสกุลเงินดอลลาร์ถึง 65% ในปี 2560 ลดลงเหลือเพียง 50% ในปี 2567 เนื่องจากจีนเร่งผลักดันการใช้เงินหยวนแทนดอลลาร์ในตลาดสินเชื่อต่างประเทศ ซึ่งอาจเป็นปัจจัยที่ตลาดยังคงต้องจับตาต่อไปในระยะยาว
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
คืนนี้ไม่มีการประกาศตัวเลขทางเศรษฐกิจ
วิเคราะห์ราคาทอง
ราคาทองโลกในช่วงบ่ายสามารถยืนเหนือแนวรับที่ระดับ 3,355 ดอลลาร์ จึงประเมินว่าหากไม่หลุดแนวรับดังกล่าว ทองโลกอาจอยู่ในระยะ Sideway Up ที่แข็งแกร่ง โดยมีแนวต้านที่ 3,385 และ 3,400 ดอลลาร์
ราคาทองตลาดโลก
แนวรับ 3,355 และ 3,331 ดอลลาร์
แนวต้าน 3,385 และ 3,400 ดอลลาร์
ราคาทองโลกอยู่ในระยะ Sideway Up แนะนำใช้กลยุทธ์รอเข้าซื้อสะสมจากแนวรับที่ระดับ 3,355 ดอลลาร์ และขายทำกำไรหากราคาขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 3,385 ดอลลาร์ แต่หากราคาหลุดแนวรับที่ 3,331 ดอลลาร์ แนะนำขายตัดขาดทุน
ราคาทองคำแท่ง 96.5%
แนวรับ 51,300 และ 51,100 บาท
แนวต้าน 51,700 และ 51,900 บาท
ราคาทองในประเทศยังคงแกว่งตัวในกรอบแคบ จากการที่ทองโลกปรับตัวขึ้น แต่เงินบาทแข็งค่า จึงแนะนำรอเข้าซื้อสะสมแนวรับที่ระดับ 51,300 บาท และขายทำกำไรหากราคาทดสอบแนวต้านที่ 51,700 บาท แต่หากราคาหลุดแนวรับที่ 51,100 บาทลงไป แนะนำขายตัดขาดทุน
