แนวโน้มราคาทอง
พักฐานลงก่อนขึ้นต่อ
- ทองขึ้น ขานรับดอลลาร์อ่อน + ตลาดกังวลพิษ
ชัตดาวน์ ขณะที่ภาวะชัตดาวน์ใกล้สิ้นสุด
Gold spot
สูงสุด – 4,148 ดอลลาร์
ต่ำสุด – 4,114 ดอลลาร์
ราคาทองคำแท่ง
สูงสุด – 63,550 บาท
ต่ำสุด – 63,350 บาท
ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา
ทองโลกมีการฟื้นตัวขึ้น จากการที่ดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) ได้มีแนวโน้มปรับตัวลงเป็นวันที่ 5 สู่ระดับ 99.62 หน่วย จากเดิมที่ 100.18 หน่วย อีกทั้งบอนด์ยีลด์ยังคงทรงตัวบริเวณ 4.14% – 4.12% สืบเนื่องมาจากตลาดยังคงมีความกังวลในตลาดแรงงาน จากผลกระทบภาวะชัตดาวน์ที่เกิดขึ้นเกิน 1 เดือน โดยบริษัทจัดหางานอย่าง Challenger ได้เปิดเผยว่า การปลดพนักงานในเดือนต.ค. (ช่วงเดียวกันกับภาวะชัตดาวน์) มีจำนวนรวม 153,074 ตำแหน่ง เพิ่มขึ้นถึง 183% จากเดือนก.ย.และสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้วถึง 175% อย่างไรก็ตาม ในช่วงค่ำของวันอังคาร วุฒิสภาสหรัฐฯ มีมติผ่านร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราว ด้วยคะแนน 60 ต่อ 40 และได้มีการจัดสรรงบประมาณให้กับกระทรวงเกษตรและกิจการทหารผ่านศึก รวมถึงสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา และสภาคองเกรสเอง จนถึงวันที่ 30 ก.ย. 2026 ส่วนหน่วยงานอื่นๆ จะได้รับงบประมาณจนถึงวันที่ 30 ม.ค. 2026
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
คืนนี้ไม่มีการประกาศตัวเลขทางเศรษฐกิจ
วิเคราะห์ราคาทอง
ราคาทองโลกได้ปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านสำคัญบริเวณ 4,150 และ 4,170 ดอลลาร์ จึงประเมินว่า ทองโลกอาจปรับตัวลงทดสอบแนวรับที่ 4,095 ดอลลาร์ และอาจมีโอกาสฟื้นตัวขึ้นอีกครั้งในภายหลัง แต่หากทองโลกหลุดแนวรับถัดไปที่ 4,075 ดอลลาร์ ทองโลกอาจกลับมา Sideway อีกครั้ง
ราคาทองตลาดโลก
แนวรับ 4,095 และ 4,075 ดอลลาร์
แนวต้าน 4,150 และ 4,170 ดอลลาร์
ทองโลกมีแนวโน้มย่อตัวลงระยะสั้น จึงแนะนำใช้กลยุทธ์ทยอยขายตามแนวต้านที่ระดับ 4,150 และ 4,170 ดอลลาร์ และซื้อสะสมหากราคาลงทดสอบแนวรับที่ 4,095 ดอลลาร์ แต่หากราคาหลุดแนวรับที่ 4,075 ดอลลาร์ ลงไป แนะนำขายตัดขาดทุน
ราคาทองคำแท่ง 96.5%
แนวรับ 63,000 และ 62,800 บาท
แนวต้าน 63,450 และ 63,600 บาท
ราคาทองในประเทศมีการปรับตัวขึ้นตามทองโลก ในขณะที่ค่าเงินบาทแข็งค่า
จึงแนะนำทยอยขายตามแนวต้านบริเวณ 63,450 และ 63,600 บาท และทยอยซื้อตามแนวรับที่ 63,000 บาท แต่หากราคาหลุดแนวรับที่ 62,800 บาท ลงไป แนะนำขายตัดขาดทุน











