แนวโน้มราคาทอง
ขาขึ้น
- ทองขึ้น ขานรับวิกฤติจ้างงานภาครัฐของสหรัฐฯ
ขณะที่ Dalio และ GS มีมุมมองบวกต่อทองคำ
Gold spot
สูงสุด – 4,040 ดอลลาร์
ต่ำสุด – 3,983 ดอลลาร์
ราคาทองคำแท่ง
สูงสุด – 62,050 บาท
ต่ำสุด – 61,450 บาท
ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา
ทองโลกได้มีการปรับตัวขึ้น จากการที่สหรัฐฯ เข้าสู่ภาวะชัตดาวน์เป็นวันที่ 8 โดยปธน.ทรัมป์ ได้เผิดเผยว่า เจ้าหน้าที่รัฐบางส่วนที่ถูกให้หยุดงานชั่วคราวจากภาวะชัตดาวน์ อาจไม่ได้รับเงินชดเชยย้อนหลังเมื่อหน่วยงานกลับมาเปิดทำการอีกครั้ง ทั้งนี้ สำนักงานงบประมาณรัฐสภาสหรัฐฯ ประเมินว่า การชัตดาวน์สหรัฐฯ ครั้งนี้อาจส่งผลให้เจ้าหน้าที่รัฐราว 750,000 คนต้องถูกพักงานชั่วคราว และอาจทำให้สหรัฐฯ มีการจ้างงานที่อ่อนแอ ในขณะที่นาย Ray Dalio เจ้าของกองทุน Hedge Funs สหรัฐฯ ได้กล่าวถึงทองคำเป็นสินทรัพย์ทางเลือกที่ปลอดภัยกว่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ จากระเบิดเวลาหนี้สินสหรัฐฯ ที่มีความเสี่ยงสูงขึ้นวิกฤติ นอกจากนี้ นาง Lina Thomas นักกลยุทธ์สินค้าโภคภัณฑ์ของ Goldman Sachs (GS) ได้กล่าวว่า การเข้าซื้อทองคำของธนาคารกลางทั่วโลกเป็นการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างในการบริหารทุนสำรองระหว่างประเทศ ซึ่งจะยังคงดำเนินต่อไปอีกราว 3 ปี อย่างไรก็ตาม ดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) มีแนวโน้มปรับตัวขึ้นเป็นวันที่ 3 สู่ระดับ 98.82 หน่วย จาก 97.95 หน่วย เนื่องจากจากเงินเยนอ่อนค่าหลังจากตลาดกังวลแนวโน้มการผ่อนคลายนโยบายการเงินและการคลังของญี่ปุ่น
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
คืนนี้ไม่มีการประกาศตัวเลขทางเศรษฐกิจ
วิเคราะห์ราคาทอง
ทองโลกอยู่ในระยะขาขึ้น แต่ในระยะสั้นมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 4,045 ดอลลาร์ และมีการปรับตัวลงในภายหลัง จึงประเมินว่า ทองโลกอาจต่อตัวลงระยะสั้นทดสอบแนวรับที่ 4,020 ดอลลาร์ แต่หากทองโลกหลุดแนวรับถัดไปที่ 4,000 ดอลลาร์ ทองโลกอาจเข้าสู่การปรับฐานลงระยะสั้น
ราคาทองตลาดโลก
แนวรับ 4,020 และ 4,010 ดอลลาร์
แนวต้าน 4,045 และ 4,055 ดอลลาร์
ทองโลกอยู่ในระยะขาขึ้น แต่ระยะสั้นยังไม่แนะนำซื้อ จึงแนะนำใช้กลยุทธ์ย่อเก็บสะสมจากแนวรับที่ระดับ 4,020 ดอลลาร์ และขายทำกำไรหากราคาขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 4,045 ดอลลาร์ แต่หากราคาหลุดแนวรับที่ 4,010 ดอลลาร์ แนะนำขายตัดขาดทุน
ราคาทองคำแท่ง 96.5%
แนวรับ 61,900 และ 61,800 บาท
แนวต้าน 62,200 และ 62,300 บาท
ราคาทองในประเทศอยู่ในระยะขาขึ้นตามทองโลก ในขณะที่ค่าเงินบาท Sideway จึงแนะนำขายตามแนวต้านที่ระดับ 62,200 และ 62,300 บาท และรอเข้าซื้อสะสมตามแนวรับที่ 61,900 บาท แต่หากราคาหลุดแนวรับที่ 61,800 บาท แนะนำขายตัดขาดทุน











