แนวโน้มราคาทอง
Sideway Up
- สหรัฐฯ – อินเดียอาจตั้งกำแพงภาษีตอบโต้
ฝั่งละ 50% ในขณะที่ดอลลาร์อ่อน ยูโรแข็ง
Gold spot
สูงสุด – 3,397 ดอลลาร์
ต่ำสุด – 3,365 ดอลลาร์
ราคาทองคำแท่ง
สูงสุด – 51,750 บาท
ต่ำสุด – 51,600 บาท
ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา
ทองคำโลกได้กลับตัวเป็นขาขึ้น จากการที่ ประเทศอินเดียมีแนวโน้มที่จะถูกสหรัฐฯ ขึ้นภาษีนำเข้าสูงถึง 50% จากเดิมที่ 25% หากไม่สามารถบรรลุข้อตกลงทางการค้าได้ภายใน 3 สัปดาห์ เนื่องจากอินเดียยังมีความเห็นไม่ตรงกันกับสหรัฐฯ ในการเปิดตลาดสินค้าเกษตรและนมของสหรัฐฯ รวมถึงการหยุดซื้อน้ำมันจากรัสเซีย โดยทางอินเดียเริ่มแสดงท่าทีตั้งกำแพงภาษีศุลกากรตอบโต้ที่ 50% ต่อสหรัฐฯ หากการเจรจาไม่บรรลุผล ในขณะที่ดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) เสี่ยงอ่อนค่าหลุด 98 หน่วย แต่เงินยูโรแข็งค่าต่อเนื่อง สืบเนื่องมาจาก การเจรจาสงบศึกระหว่างรัสเซีย – ยูเครนเริ่มมีความคืบหน้า ทำให้การบริโภค โครงสร้างพื้นฐาน และสินทรัพย์เสี่ยงของยุโรปมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้น อีกทั้งดอลลาร์ยังอ่อนค่าจากการที่ทรัมป์กล่าวว่ากำลังพิจารณาผู้ว่าการเฟดชั่วคราว ก่อนที่จะมีการแต่งตั้งถาวรอีกครั้ง และทรัมป์ได้ย้ำอีกว่านายเควิน วอร์ช อดีตผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐฯ และนายเควิน แฮสเซตต์ ผู้อำนวยการสภาเศรษฐกิจแห่งชาติ คือผู้ที่เหมาะสมที่จะเป็น “ประธานเฟดคนต่อไป” ซึ่งทั้ง 2 คนดังกล่าวคือกลุ่มคนที่ต้องการให้เฟดลดดอกเบี้ย
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
คืนนี้เวลา 18.00 น. ประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) และ เวลา 19.30 น. สหรัฐฯ เผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
วิเคราะห์ราคาทอง
ช่วงบ่าย ราคาทองโลกมีการไต่ระดับขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 3,397 ดอลลาร์ และยังมีการย่อตัวลง จึงประเมินว่า หากทองโลกมีการปรับฐานลงทดสอบแนวรับที่ 3,370 ดอลลาร์ และมีการฟื้นตัวกลับขึ้นไป ทองโลกอาจอยู่ในระยะ Sideway Up
ราคาทองตลาดโลก
แนวรับ 3,370 และ 3,355 ดอลลาร์
แนวต้าน 3,397 และ 3,413 ดอลลาร์
ราคาทองโลกอยู่ในระยะไต่ระดับขึ้น แนะนำ
ใช้กลยุทธ์เข้าซื้อสะสมจากแนวรับที่ระดับ 3,370 ดอลลาร์ และขายทำกำไรหากราคาขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 3,397 ดอลลาร์ แต่หากราคาหลุดแนวรับที่ 3,355 ดอลลาร์ แนะนำขายตัดขาดทุน
ราคาทองคำแท่ง 96.5%
แนวรับ 51,500 และ 51,400 บาท
แนวต้าน 51,750 และ 51,900 บาท
ราคาทองในประเทศอยู่ในระยะ Sideway ในกรอบจากการที่ทองโลกไต่ระดับขึ้น ในขณะที่ค่าเงินบาทแข็งค่าต่อเนื่อง จึงแนะนำเข้าซื้อสะสมแนวรับที่ระดับ 51,500 บาท และขายทำกำไรหากราคาทดสอบแนวต้านที่ 51,750 บาท แต่หากราคาหลุดแนวรับที่ 51,400 บาท ลงไป แนะนำขายตัดขาดทุน
