แนวโน้มราคาทอง
ย่อลงก่อนทำจุดสูงสุด
- ดอลลาร์อ่อน , คดีผู้ว่าเฟดยืดเยื้อ , ภาษีเก็บต่อ
- ค้าปลีกสหรัฐฯ จ่อขึ้นราคา ดันเงินเฟ้อพุ่ง
Gold spot
สูงสุด – 3,489 ดอลลาร์
ต่ำสุด – 3,437 ดอลลาร์
ราคาทองคำแท่ง
สูงสุด – 53,200 บาท
ต่ำสุด – 52,800 บาท
ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา
ทองโลกอยู่ในระยะขาขึ้นต่อเนื่อง จากการที่ดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) ได้ปรับตัวลงเป็นวันที่ 5 ติดต่อกัน โดนปรับตัวลงสู่ระดับ 97.6 หน่วย จากระดับสูงสุดที่ 98.4 หน่วย สืบเนื่องมาจากเมื่อวันศุกร์ ตลาดยังคงมีความกังวลประเด็นการปลดลิซ่า คุก ผู้ว่าเฟด ที่สิ้นสุดลงโดยไม่มีคำตัดสินจากผู้พิพากษาและยังไม่มีคำสั่งชี้ขาดว่าคุกจะสามารถปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้หรือไม่ก่อนวันอังคารนี้เป็นอย่างน้อย ในขณะที่ผู้แทนการค้า นาย Jamieson Greer กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ว่า สหรัฐฯ ยังคงดำเนินการเจรจากับประเทศคู่ค้าต่อไป แม้ว่าศาลอุทธรณ์สหรัฐฯ จะตัดสินว่าภาษีนำเข้าส่วนใหญ่ของทรัมป์นั้นผิดกฎหมายก็ตาม อย่างไรก็ตาม ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา บริษัทค้าปลีกยักษ์ใหญ่สหรัฐฯ เช่น Walmart , Target และ Best Buy มีแนวโน้มทยอยส่งผ่านต้นทุนภาษีนำเข้าสู่ผู้บริโภคสหรัฐฯ ในระยะอันใกล้ โดยเฉพาะหมวดสินค้าอุปโภค บริโภค , เครื่องใช้ภายในบ้านและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งอาจส่งผลให้เฟดกลับมากังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อที่ทยอยขยายตัวขึ้นในภายหลังได้
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
คืนนี้ไม่มีการประกาศตัวเลขทางเศรษฐกิจ
วิเคราะห์ราคาทอง
ราคาทองโลกอยู่ในระยะขาขึ้น แต่ในระยะสั้นยังไม่สามารถผ่านแนวต้านที่ 3,490 ดอลลาร์ จึงประเมินว่า ทองโลกมีโอกาสปรับฐานลงทดสอบแนวรับที่ 3,450 ดอลลาร์ และอาจมีการฟื้นตัวเป็นขาขึ้นอีกครั้ง แต่หากทองโลกปรับฐานลงหลุดแนวรับที่ 3,430 ดอลลาร์ ลงไป ทองโลกอาจกลับเข้าสู่ระยะ Sideway Up
ราคาทองตลาดโลก
แนวรับ 3,450 และ 3,430 ดอลลาร์
แนวต้าน 3,490 และ 3,500 ดอลลาร์
ราคาทองโลกในภาพรวมเป็นขาขึ้นเต็มตัว แต่ระยะสั้นมีการ แนะนำใช้กลยุทธ์รอเข้าซื้อสะสมตามแนวรับที่ระดับ 3,450 ดอลลาร์ และขายทำกำไรหากราคาขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 3,490 ดอลลาร์ แต่หากราคาหลุดแนวรับที่ 3,430 ดอลลาร์ แนะนำขายตัดขาดทุน
ราคาทองคำแท่ง 96.5%
แนวรับ 52,750 และ 52,550 บาท
แนวต้าน 53,350 และ 53,550 บาท
ราคาทองในประเทศอยู่ในระยะขาขึ้นตามทองโลก ขณะที่ค่าเงินบาทแข็งค่า จึงแนะนำเข้าซื้อสะสมแนวรับที่ระดับ 52,750 บาท และขายทำกำไรหากราคาทดสอบแนวต้านที่ 52,350 บาท แต่หากราคาหลุดแนวรับที่ 52,550 บาท ลงไป แนะนำขายตัดขาดทุน
