สำนักวิเคราะห์การเงินชั้นนำทั่วโลก คาด “เฟด” ลดดอกเบี้ยรวม 0.50% ปี 2568 เหลือระดับ 3.50–3.75% ส่วนใหญ่เห็นตรงกันลด 2 ครั้ง ส่งสัญญาณผ่อนคลายอย่างระมัดระวัง
วันที่ 28 ตุลาคม 2568 เวลา 15.20 น. สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า บรรดาสำนักวิเคราะห์การเงินรายใหญ่ทั่วโลกส่วนใหญ่คาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ (Federal Reserve: Fed) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายรวม ประมาณ 0.50% ภายในปี 2568 โดยแบ่งเป็นการลดดอกเบี้ย 2 ครั้งตลอดทั้งปี ซึ่งจะส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยปลายปีอยู่ในช่วง 3.50–3.75%
ในกลุ่มนี้ประกอบด้วยสำนักวิเคราะห์รายใหญ่ เช่น Wells Fargo, Goldman Sachs, J.P. Morgan, Barclays, Nomura, Morgan Stanley, Deutsche Bank, BNP Paribas, HSBC และ Standard Chartered ที่เห็นตรงกันว่าเฟดจะทยอยผ่อนคลายนโยบายการเงินอย่างระมัดระวัง เพื่อรับมือกับภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงโดยไม่สร้างแรงกดดันต่อเงินเฟ้อเพิ่มเติม
ขณะที่ Citigroup คาดว่าเฟดจะปรับลดดอกเบี้ยรวม 0.50% เช่นเดียวกัน แต่จะดำเนินการอย่างค่อยเป็นค่อยไปจนถึงเดือนมีนาคมปี 2569 ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ย ณ สิ้นปี 2568 อยู่ในช่วง 3.00–3.25% ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยที่ตลาดคาดการณ์ไว้เล็กน้อย
ด้าน BofA Global Research (Bank of America) ถือเป็นสำนักเดียวในกลุ่มที่มีมุมมองเข้มงวดที่สุด โดยคาดว่าเฟดจะปรับลดดอกเบี้ยเพียง 1 ครั้งในเดือนตุลาคม 2568 รวม 0.25% ทำให้อัตราดอกเบี้ยสิ้นปีอยู่ในช่วง 3.75–4.00% สะท้อนความเชื่อว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังมีความแข็งแกร่งและเงินเฟ้อยังไม่ลดลงเร็วพอที่จะเอื้อต่อการผ่อนคลายนโยบายมากกว่านี้
ในอีกด้านหนึ่ง UBS Global Research และ UBS Global Wealth Management ซึ่งเป็นสองหน่วยงานอิสระภายใต้กลุ่ม UBS มองว่าเฟดอาจปรับลดดอกเบี้ยรวม 0.75% ภายใน ไตรมาสแรกของปี 2569 โดยคาดว่าอัตราดอกเบี้ยจะทยอยลดลงสู่ระดับ 3.25–3.50% ภายในช่วงต้นปี 2569 ซึ่งสะท้อนมุมมองว่าการชะลอตัวทางเศรษฐกิจอาจรุนแรงกว่าที่คาดและแรงกดดันเงินเฟ้อจะลดลงต่อเนื่อง
โดยสรุปแล้ว นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ยังคงเห็นพ้องว่าเฟดจะดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายอย่างค่อยเป็นค่อยไป (gradual easing) เพื่อรักษาสมดุลระหว่างการพยุงเศรษฐกิจและควบคุมเงินเฟ้อ โดยมีเพียงไม่กี่สำนัก เช่น BofA ที่มองว่าเฟดอาจชะลอการลดดอกเบี้ยลง และในทางกลับกัน UBS มองว่าเฟดอาจต้องเร่งลดเร็วกว่าที่ตลาดคาด หากสัญญาณเศรษฐกิจอ่อนแรงชัดเจนในปีหน้า
ที่มา : การเงินธนาคาร








