ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพุธ (19 พ.ย.) หลังจากรายงานการประชุมประจำวันที่ 28-29 ต.ค.ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) บ่งชี้ว่า กรรมการเฟดมีความกังวลว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอาจจะส่งผลกระทบต่อภารกิจการต่อสู้กับเงินเฟ้อของเฟด ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนก.ย.ในวันนี้ (20 พ.ย.) เพื่อหาสัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับแนวโน้มนโยบายการเงินของเฟด
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของสกุลเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.68% แตะที่ 100.228 จุด
รายงานการประชุมประจำวันที่ 28-29 ต.ค.ของเฟดระบุว่า กรรมการเฟดมีความกังวลว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอาจจะส่งผลกระทบต่อภารกิจการต่อสู้กับเงินเฟ้อของเฟด โดยอัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่สูงกว่าเป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2% เป็นเวลากว่า 4 ปี
ทั้งนี้ แม้ว่าท้ายที่สุดแล้วคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (FOMC) ได้ตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% หลังเสร็จสิ้นการประชุมในวันที่ 29 ต.ค. แต่มติการประชุมครั้งนี้ไม่เป็นเอกฉันท์ นอกจากนี้ เจอโรม พาวเวล ประธานเฟดได้กล่าวในการแถลงข่าวหลังการประชุมว่า การปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค.ยังคงมีความไม่แน่นอน
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนักเพียง 32.8% ในการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนธ.ค.
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนก.ย.ของสหรัฐฯ ในวันนี้ โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 55,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. หลังจากเพิ่มขึ้นเพียง 22,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. และคาดว่าอัตราว่างงานเดือนก.ย.จะทรงตัวที่ระดับ 4.3%
ด้านสำนักงานสถิติแรงงานของกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ ระบุว่าจะไม่เผยแพร่ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนต.ค.แบบแยกต่างหาก แต่จะรวมตัวเลขจ้างงานของเดือนต.ค.เข้ากับรายงานของเดือนพ.ย. เนื่องจากการปิดหน่วยงานของรัฐบาลได้ส่งผลกระทบต่อการรวบรวมข้อมูลสำคัญ ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวจะทำให้เฟดมีข้อมูลไม่มากนักในการประเมินภาวะตลาดแรงงานในการประชุมเดือนธ.ค.
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการรายงานเมื่อคืนนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยว่า ตัวเลขขาดดุลการค้าของสหรัฐฯ ลดลง 23.8% สู่ระดับ 5.96 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนส.ค. และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 6.13 หมื่นล้านดอลลาร์ จากระดับ 7.82 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนก.ค.
ทั้งนี้ การนำเข้าลดลง 5.1% สู่ระดับ 3.404 แสนล้านดอลลาร์ ขณะที่การส่งออกเพิ่มขึ้น 0.1% สู่ระดับ 2.808 แสนล้านดอลลาร์
ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์, CME Group









