ข่าวสารการลงทุน

เควิน แฮสเซตต์ ขึ้นแท่นตัวเต็งประธานเฟด คนใหม่ หนุนความหวังตลาดต่อทิศทางลดดอกเบี้ยเชิงรุก ดันความเชื่อมั่นนโยบายการเติบโต

08 ธันวาคม 2568|15:54 น.

HSH Kevin H website

ท่ามกลางการจับตาทิศทางนโยบายการเงินของสหรัฐฯ ล่าสุดสำนักข่าว Bloomberg ระบุว่า ชื่อของเควิน แฮสเซตต์ ผู้อำนวยการสภาเศรษฐกิจแห่งชาติ กลับมาโดดเด่นอีกครั้งในฐานะตัวเต็งประธานเฟดคนใหม่ หลังมีรายงานว่าตลาดตอบรับเชิงบวกต่อความเป็นไปได้ที่แฮสเซตต์จะทำหน้าที่ต่อจากเจอโรม พาวเวล ซึ่งจะสิ้นสุดวาระลงในปี 2026 ความสอดคล้องด้านนโยบายกับรัฐบาลและท่าทีสนับสนุนการลดดอกเบี้ยเชิงรุก ทำให้แฮสเซตต์ถูกมองว่าเป็นผู้ที่จะนำพาเฟดเข้าสู่ยุคใหม่ของการกระตุ้นเศรษฐกิจให้เติบโต ขณะเดียวกัน ตลาดกำลังถกเถียงเรื่องความเป็นอิสระของธนาคารกลางและผลกระทบต่อเสถียรภาพเศรษฐกิจในระยะยาว

นายธนรัชต์ พสวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทฮั่วเซ่งเฮง กล่าวว่า เควิน แฮสเซตต์ หรือ ดร. เควิน อัลเลน แฮสเซตต์ (Dr. Kevin Allen Hassett) ไม่ใช่หน้าใหม่ในแวดวงเศรษฐกิจสหรัฐฯ แต่ผ่านประสบการณ์การทำงานมาอย่างยาวนาน

  • นักวิชการด้านเศรษฐศาสตร์สายอนุรักษ์นิยมที่ได้รับการยอมรับสูง เคยทำงานในเฟดและ Columbia Business School รวมทั้งเคยเป็นที่ปรึกษาให้กับจอร์จ ดับเบิลยู บุช มิตต์ รอมนีย์ แม้แต่อดีตประธานเฟดระดับตำนานอย่าง อลัน กรีนสแปน
  • มีผลงานด้านวิจัยและงานสอนในสถาบันเศรษฐกิจชั้นนำ รวมถึงสถาบัน American Enterprise Institute
  • จบการศึกษาระดับปริญญาเอก ดีกรี Ph.D. จาก University of Pennsylvania
  • เคยดำรงตำแหน่งประธานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจ (CEA) ระหว่างปี 2017–2019 ในรัฐบาลทรัมป์สมัยแรก
  • ปี 2025 กลับมารับตำแหน่งผู้อำนวยการสภาเศรษฐกิจแห่งชาติ (National Economic Council: NEC) ในรัฐบาลทรัมป์สมัยที่สอง

ก่อนหน้านี้ แม้แฮสเซตต์เคยปฏิเสธในการให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว CBS ว่า “ตนยังไม่ขอยืนยันอะไรเกี่ยวกับตำแหน่งประธานเฟด” แต่ตลาดกลับตอบรับข่าวลืออย่างดี เพราะเล็งเห็นสัญญาณว่า ทรัมป์กำลังใกล้เลือกตัวจริงมากขึ้นแล้ว ในอดีต แฮสเซตต์เคยตั้งข้อสังเกตว่าการดำเนินนโยบายดอกเบี้ยของเฟดอาจได้รับอิทธิพลทางการเมือง โดยระบุว่าเฟดขึ้นดอกเบี้ยในช่วงที่มีการผ่านกฎหมายลดภาษี แต่กลับลดดอกเบี้ยก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดี ในปี 2024 ซึ่งสะท้อนผลประโยชน์ทางการเมืองแฝงอยู่ในกระบวนการตัดสินใจ

จุดยืนด้านนโยบายที่สอดคล้องกับทำเนียบขาว

นักวิเคราะห์ระบุว่า แฮสเซตต์มีความสอดคล้องกับทรัมป์อย่างชัดเจนในหลายด้าน ทั้งนโยบายลดภาษี การลดกฎระเบียบ และท่าทีสนับสนุนการกระตุ้นให้เศรษฐกิจเติบโต แฮสเซตต์เป็นหนึ่งในผู้เรียกร้องให้เฟดลดดอกเบี้ยในอัตราที่มากกว่าเดิม โดยมองว่าการปรับลดดอกเบี้ย 0.50% ในเดือนธันวาคมเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อสนับสนุนภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน

นอกจากนี้ แฮสเซตต์ยังเป็นหนึ่งในนักเศรษฐศาสตร์ที่วิจารณ์แนวทางการขึ้นดอกเบี้ยของพาวเวลอย่างต่อเนื่อง โดยระบุว่าการขึ้นดอกเบี้ยในช่วงที่ผ่านมาเป็นปัจจัยที่ถ่วงการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯ

ความกังวลต่อความเป็นอิสระของเฟด

แม้แฮสเซตต์จะได้รับการสนับสนุนจากฝ่ายบริหาร แต่หลายฝ่ายตั้งคำถามเกี่ยวกับความเป็นอิสระในการทำงาน เพราะเฟดคือ “ผู้กุมบังเหียนเศรษฐกิจโลก” การขยับดอกเบี้ยเพียง 0.25% สามารถเขย่าตลาดหุ้นทั่วโลกและส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจได้ทันที สื่อในสหรัฐฯ หลายสำนักต่างรายงานในทิศทางเดียวกันว่า ความใกล้ชิดระหว่างแฮสเซตต์กับทรัมป์อาจทำให้เฟดถูกกดดันให้คงนโยบายดอกเบี้ยต่ำเกินไปในระยะยาว และอาจทำให้เสถียรภาพทางเศรษฐกิจสั่นคลอน

  • Washington Post เตือนว่า เฟดอาจลังเลที่จะขึ้นดอกเบี้ยแม้มีความจำเป็น
  • Business Insider ระบุว่า การเมืองอาจเข้ามาแทรกแซงการตัดสินใจเชิงนโยบายของเฟด
  • Austan Goolsbee ประธานเฟดชิคาโกกล่าวว่า หากการเมืองมีบทบาทมากเกินไป อาจนำพาสหรัฐฯ เข้าสู่ภาวะ “เงินเฟ้อที่รุนแรงขึ้นและอัตราว่างงานที่สูงขึ้น”

ขณะนี้ แฮสเซตต์ยังคงอยู่ในรายชื่อผู้ผ่านการคัดเลือกรอบสุดท้ายร่วมกับ เควิน วอร์ช อดีตผู้ว่าการเฟดสายเหยี่ยว และคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ ผู้ว่าการเฟดปัจจุบัน โดยทรัมป์อาจประกาศชื่อประธานเฟดคนใหม่ปลายเดือนธันวาคมนี้ เพื่อเป็นของขวัญคริสต์มาสให้กับทุกคน ตามคำให้สัมภาษณ์ของ สก็อต เบสเซนต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของสหรัฐฯ

Dot Plot 2026: ปัจจัยชี้ขาดทิศทางทองคำรอบใหม่

แม้ตลาดจะให้ความสนใจกับการประชุมเฟดในเดือนธันวาคมนี้ โดยคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะปรับลดดอกเบี้ยลงอีก 0.25% ซึ่งเป็นการปรับลดครั้งที่สามของปีนี้ แต่สำหรับนักลงทุนแล้ว สิ่งที่สำคัญไม่แพ้ตัวเลขดอกเบี้ยก็คือ Dot Plot หรือแผนภูมิที่บ่งชี้มุมมองของกรรมการเฟดต่อแนวโน้มดอกเบี้ยในปีต่อ ๆ ไป

ข้อมูลในรอบเดือนกันยายนที่ผ่านมาชี้ว่า เฟดอาจลดดอกเบี้ยเพียงปีละครั้งในช่วงปี 2026–2027 ซึ่งเป็นการปรับลดแบบค่อยเป็นค่อยไป อย่างไรก็ตาม ตลาดจับตาว่า Dot Plot รอบใหม่นี้จะส่งสัญญาณการลดดอกเบี้ยที่เร็วกว่าหรือมากกว่าที่คาดการณ์ไว้หรือไม่?

หาก Dot Plot บ่งชี้ว่าการลดดอกเบี้ยเร่งตัวเร็วขึ้น จะเป็นปัจจัยบวกต่อราคาทองคำ เนื่องจากสภาพคล่องที่เพิ่มขึ้นทำให้ดอลลาร์อ่อนค่า และกระตุ้นความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัย ในทางตรงกันข้าม หากเฟดส่งสัญญาณว่าการลดดอกเบี้ยต้องเลื่อนออกไป หรือมีจำนวนครั้งน้อยลง ราคาทองคำอาจถูกกดดันในระยะสั้น แม้ภาพรวมระยะยาวยังได้รับแรงหนุนจากความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์และเศรษฐกิจโลกที่ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ โดยรวมแล้ว Dot Plot ปี 2026 ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่นักลงทุนต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เนื่องจากมีอิทธิพลต่อทิศทางราคาทองคำมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ นายธนรัชต์ กล่าวสรุป

แชร์บทความนี้

บทความที่เกี่ยวข้อง

 
ตลาดทองคำ

ทองปิดบวก $18.5 นลท.ระวังการซื้อขายก่อนประชุมเฟด

08:42 น.

 
need job

ADP เผยการจ้างงานภาคเอกชนเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 4,750 ตำแหน่งต่อสัปดาห์

08:38 น.

 
dollar

ดอลลาร์อ่อนค่าเทียบเยน จากปัจจัยส่วนต่างดอกเบี้ยญี่ปุ่น-สหรัฐฯ

11:58 น.

 
trump vs zelensky cnn

ทรัมป์เหน็บเซเลนสกี ไม่ยอมพิจารณาข้อเสนอสันติภาพ เสี่ยงทำแผนติดหล่ม

11:56 น.

คำถามที่พบบ่อย

เกี่ยวกับเรา

พูดคุยกับเรา

พบเจอปัญหา หรือมีข้อสงสัย
ทักหาเราได้เลยที่นี่

เวลาทำการลูกค้าสัมพันธ์
จันทร์ - ศุกร์ 08.30 น. - 24.00 น.
เสาร์ - อาทิตย์ 08.30 น. - 17.30 น.

For the best experience, we recommend viewing the site in portrait orientation on mobile devices.

ไอคอน PDPA

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งาน กรุณาดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และตั้งค่าคุกกี้ได้ที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

You can choose your cookie settings by enabling/disabling cookies for each category as needed, except for necessary cookies.

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็นสำหรับการทำงานพื้นฐานของเว็บไซต์
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้เหล่านี้จำเป็นสำหรับการทำงานพื้นฐานของเว็บไซต์ เช่น การรักษาการล็อกอินของผู้ใช้ การบันทึกสินค้าที่เพิ่มลงในรถเข็น และการบันทึกการตั้งค่าภาษา
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้วิเคราะห์เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งาน

    คุกกี้เหล่านี้ใช้เพื่อรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการใช้งานเว็บไซต์ เช่น จำนวนผู้เข้าชม, หน้าเว็บที่ได้รับความนิยม และพฤติกรรมการท่องเว็บ ซึ่งช่วยให้เจ้าของเว็บไซต์ปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้การทำงานเพื่อจดจำการตั้งค่าผู้ใช้

    คุกกี้เหล่านี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานเว็บไซต์ โดยจดจำการตั้งค่าที่ผู้ใช้เคยกำหนดไว้ เช่น ชื่อผู้ใช้, ภาษา, ภูมิภาค หรือการปรับแต่งเว็บไซต์ตามความต้องการ
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้ของบุคคลที่สามเพื่อการวิเคราะห์และการตลาด

    คุกกี้เหล่านี้ถูกตั้งค่าโดยบุคคลที่สาม เช่น ผู้ให้บริการวิเคราะห์ข้อมูลหรือผู้ให้บริการโฆษณา และใช้เพื่อวัตถุประสงค์ต่าง ๆ เช่น การวิเคราะห์เว็บไซต์และการทำการตลาด
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้โฆษณาเพื่อแสดงโฆษณาที่ตรงกับความสนใจ

    คุกกี้เหล่านี้ใช้เพื่อติดตามการใช้งานของผู้ใช้บนเว็บไซต์ต่าง ๆ และแสดงโฆษณาที่ตรงกับความสนใจของผู้ใช้มากขึ้น ซึ่งมักจะใช้โดยเครือข่ายโฆษณาภายนอก
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า