สิ่งที่ควรรู้จากการประชุมเฟดครั้งนี้
ผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 29-30 ก.ค. 2568 มีมติด้วยคะแนนเสียง 9 ต่อ 2 ตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่เดิม 4.25-4.50% เป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้
ที่น่าสังเกตคือคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ และมิเชล โบว์แมนลงมติให้ลดอัตราดอกเบี้ย ซึ่งทั้ง 2 ท่านเป็นคณะกรรมการผู้ว่าการเฟดที่ได้รับการแต่งตั้งจากประธานาธิบดีทรัมป์ ถือเป็นครั้งแรกที่มีกรรมการ 2 คนของคณะกรรมการผู้ว่าการเฟด แสดงความไม่เห็นด้วยอย่างเป็นทางการ นับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2536
นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ยังส่งสัญญาณไม่เร่งลดดอกเบี้ย แถลงว่าขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะบอกว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย. เฟดให้ความสำคัญกับเงินเฟ้อ ต้องรอดูภาษีนำเข้ากระทบต่อเงินเฟ้อและเศรษฐกิจมากน้อยแค่ไหน ก่อนจะตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ย
FedWatch Tool ของ CME Group สะท้อนมุมมองของตลาดเปลี่ยนไป คาดเฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้เพียง 0.25% ในเดือนธันวาคม จากเดิมคาดจะลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% หรือ 2 ครั้ง ในเดือนกันยายนและเดือนธันวาคม
แนวโน้มราคาทองคำและคำแนะนำการลงทุน
ราคาทองคำทางด้านเทคนิคเป็นรูปแบบ Triple Top หลังจากขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 3,440-3,450 ดอลลาร์ แต่ไม่สามารถผ่านขึ้นไปได้ โดยมีแนวรับ 3,268 / 3,250 ดอลลาร์ แนวต้าน 3,300 / 3,335 ดอลลาร์ ปัจจัยที่กระทบ คือ การเจรจาการค้าของสหรัฐฯ และประเทศคู่ค้า ก่อนเส้นตายวันที่ 1 สิงหาคม ล่าสุดทรัมป์ประกาศดีลเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากเกาหลีใต้ 15% จากเดิม 25% ตัวเลขเงินเฟ้อ Core PCE สหรัฐฯ เดือนมิ.ย. ที่จะประกาศในคืนวันพฤหัส และการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐฯ เดือนก.ค.ที่จะประกาศในคืนวันศุกร์
การลงทุนทองแท่ง แนะนำซื้อเก็งกำไรที่ 3,250-3,268 ดอลลาร์ และขายทำกำไรเมื่อราคาทองขึ้นไปที่ 3,335 ดอลลาร์ ระยะยาวแนะนำเข้าซื้อสะสมที่ 3,200-3,250 ดอลลาร์ การลงทุนใน Gold futures เปิดสถานะขายเมื่อราคาทอง Spot ปรับขึ้นไปที่ 3,335 ดอลลาร์
