การซื้อขายทองรูปพรรณในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นสร้อยคอ แหวน กำไล หรือเครื่องประดับต่าง ๆ คำที่มักได้ยินบ่อยคือ ‘ค่ากำเหน็จ’ ซึ่งเป็นค่าบริการที่ร้านทองคิดเพิ่มจากราคาทองคำแท่ง โดยครอบคลุมทั้งค่าแรงของช่างทองในการขึ้นรูป ค่าออกแบบลวดลาย ค่าการประกอบอุปกรณ์เสริม ไปจนถึงบริการหลังการขาย เช่น การซ่อมบำรุงหรือปรับแต่ง เมื่อถึงเวลาที่เจ้าของทองอยากจะ “เปลี่ยนลาย” เช่น เปลี่ยนสร้อยคอทองคำ 1 บาทเป็นลายใหม่ คำถามสำคัญที่เกิดขึ้นคือ “เปลี่ยนลายทอง 1 บาท ต้องเสียค่ากำเหน็จเท่าไร ?” บทความนี้จะมาเจาะลึกทุกขั้นตอนและปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการคำนวณค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนลายทอง เพื่อให้คุณเข้าใจภาพรวมทั้งหมด

ทำความเข้าใจความหมายของคำว่า “ค่ากำเหน็จ”
ก่อนจะไปหาคำตอบว่าเปลี่ยนลายทอง 1 บาท ต้องเสียค่ากำเหน็จเท่าไร ? สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจความหมายของค่ากำเหน็จให้ชัดเจนเสียก่อน โดยหลายคนอาจเข้าใจว่าค่ากำเหน็จคือค่าแรงช่างทองเท่านั้น แต่ในความเป็นจริงแล้ว “ค่ากำเหน็จ” คือค่าฝีมือรวมถึงต้นทุนทุกอย่างในการขึ้นรูปทองให้กลายเป็นเครื่องประดับที่สวยงาม แข็งแรง และมีดีไซน์เฉพาะตัว
โดยทั่วไป สมาคมค้าทองคำแนะนำให้ร้านทองกำหนดค่ากำเหน็จขั้นต่ำประมาณ 500 บาทต่อ 1 บาททองคำ แต่ตัวเลขจริงอาจแตกต่างกันตามลวดลาย ความซับซ้อน และเทคนิคที่ใช้ ซึ่งค่ากำเหน็จนี้มักครอบคลุมองค์ประกอบหลัก 4 ด้าน ได้แก่
ค่าฝีมือและความยากง่ายของลาย
ลายทองบางแบบ เช่น ลายผ่าหวาย ลายทับทิม หรือลายโซ่ตัน ต้องใช้ทักษะช่างสูงและใช้เวลาทำนานกว่าลายเรียบทั่วไป ยิ่งมีรายละเอียดถี่หรือถักแน่นมากเท่าไร ค่ากำเหน็จก็จะยิ่งสูงขึ้นตามความประณีตของงาน
ค่าดำเนินการและเทคโนโลยี
ปัจจุบันการผลิตทองรูปพรรณไม่ได้อาศัยเพียงแรงงานฝีมือเท่านั้น แต่ยังมีต้นทุนจากเครื่องจักรที่ต้องใช้ เช่น เครื่องรีดลวดทอง เครื่องเชื่อมเลเซอร์ หรือเครื่องขัดเงาแบบละเอียด ซึ่งช่วยให้ได้ผิวทองที่เงางามและมีความความแม่นยำสูง ชิ้นงานที่ใช้เทคโนโลยีเหล่านี้จะมีต้นทุนสูงกว่างานพื้นฐานทั่วไป
ค่าออกแบบและนวัตกรรม
บางลวดลายเกิดจากการออกแบบโดยดีไซเนอร์เครื่องประดับมืออาชีพ เพื่อให้ทองดูร่วมสมัยและมีเอกลักษณ์ หากเป็นลายเฉพาะของร้านหรือมีลิขสิทธิ์เฉพาะ ค่ากำเหน็จก็จะเพิ่มขึ้นอีกระดับหนึ่ง
ค่าบริการและการรับประกัน
ร้านทองชั้นนำมักรวมบริการหลังการขายไว้ในค่ากำเหน็จ เช่น การขัดเงาฟรี การซ่อมแซมจุดเชื่อมในระยะรับประกัน หรือแม้แต่การรับซื้อคืนที่ให้ราคายุติธรรมตามราคาทองในแต่ละวัน ซึ่งทั้งหมดนี้คือส่วนหนึ่งของบริการที่รวมอยู่ใน “ค่ากำเหน็จ”
หมายเหตุ: ค่ากำเหน็จเป็นต้นทุนของงานฝีมือ เมื่อขายทองคืน ร้านจะรับซื้อเฉพาะ “มูลค่าทองคำ” ไม่รวมค่ากำเหน็จเดิมที่จ่ายไป
อธิบายกระบวนการ “เปลี่ยนลายทอง” หรือ “เทิร์นทอง”
การเปลี่ยนลายทอง, การเปลี่ยนทอง หรือ “เทิร์นทอง” เป็นกระบวนการที่ร้านทองจะช่วยประเมินราคาทองเก่าของคุณ แล้วนำมาหักกับราคาทองชิ้นใหม่ที่เลือก เพื่อคิดเฉพาะส่วนต่างที่ต้องชำระเพิ่มเติมเท่านั้น โดยขั้นตอนจะมีอยู่ 3 ช่วงหลัก ดังนี้
1. การประเมินราคารับซื้อคืน (ขายทองเก่า)
ร้านทองจะชั่งน้ำหนักทองเก่าที่ลูกค้านำมาเทิร์น โดยคิดราคาตามราคาทองคำแท่งรับซื้อในวันนั้น จากนั้นปรับลดเล็กน้อยตามมาตรฐานทองรูปพรรณ ซึ่งโดยทั่วไปอาจหักไม่เกิน 5% จากราคาทองคำแท่งรับซื้อ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพทองและนโยบายของร้าน
2. การคำนวณราคาทองชิ้นใหม่ (ซื้อทองใหม่)
เมื่อเลือกลวดลายใหม่ที่ต้องการเปลี่ยนทองเรียบร้อยแล้ว ร้านทองจะคำนวณราคาทองใหม่จากราคาขายทองรูปพรรณ ณ วันนั้น บวกด้วยค่ากำเหน็จของลายที่เลือก เช่น
- ลายมาตรฐานทั่วไป: 500 – 800 บาท
- ลายแฟนซีหรือดีไซน์พิเศษ: 1,000 – 1,500 บาท
- ลายเฉพาะหรือใช้เทคนิคเลเซอร์: 1,800 บาทขึ้นไป
3. คำนวณส่วนต่างที่ต้องชำระ
สุดท้ายคือการคำนวณส่วนต่างระหว่างราคาทองใหม่กับราคารับซื้อทองเก่า ซึ่งคำนวณตามสูตรง่าย ๆ ดังนี้
ส่วนต่างที่ต้องจ่าย = (ราคาทองใหม่ + ค่ากำเหน็จใหม่) – (ราคารับซื้อคืนทองเก่า)
ตัวอย่างการคำนวณ: เปลี่ยนสร้อยคอทองคำลายเก่าเป็นลายใหม่
ก่อนเข้าสู่ตัวอย่างคำนวณ เพื่อให้ง่ายต่อการเข้าใจ ต้องอธิบายก่อนว่า ทองคำ 1 บาท มีน้ำหนักกี่กรัม โดยตามมาตรฐานของสมาคมค้าทองคำ (Gold Traders Association: GTA) น้ำหนักเป็นไปตามด้านล่างนี้
- ทองคำแท่ง 1 บาท มีน้ำหนัก 15.244 กรัม
- ทองรูปพรรณ 1 บาท มีน้ำหนัก 15.16 กรัม
ตัวเลขนี้ใช้เป็นมาตรฐานเวลาคำนวณราคาทอง หรือแปลงหน่วยเป็น “กรัม” โดยเฉพาะเมื่อเปรียบเทียบราคาทอง 2 สลึง (ครึ่งบาท) หรือ 1 สลึง (หนึ่งในสี่บาท) เช่น
- ทอง 2 สลึง ≈ 7.58 กรัม
- ทอง 1 สลึง ≈ 3.79 กรัม
ดังนั้นเวลานำทองไปเปลี่ยนลาย เช่น จาก 2 สลึงเป็น 1 บาท หรือในน้ำหนักเท่ากัน ร้านทองจะคำนวณตาม “น้ำหนักมาตรฐานนี้” เพื่อให้ราคาตรงกับประกาศสมาคมค้าทองคำในวันนั้นอย่างแม่นยำ
ตัวอย่างที่ 1: เปลี่ยนสร้อยคอทองคำ 2 สลึง
สมมติว่าราคาทองคำ ณ วันที่ไปเปลี่ยนคือ
- ราคาขายทองรูปพรรณ: 61,850 บาทต่อบาททองคำ
- ราคาทองรับซื้อคืน: 59,730 บาทต่อบาททองคำ
น้ำหนักของทองคำ 2 สลึง (ครึ่งบาท) อยู่ที่ประมาณ 7.58 กรัม จึงสามารถคำนวณว่าหากต้องการเปลี่ยนลายทอง 2 สลึงราคาเท่าไรได้ตามขั้นตอนด้านล่างนี้
- ร้านรับซื้อคืนทองเก่า
รับซื้อคืนทองรูปพรรณ 2 สลึง = 59,730 ÷ 2 = 29,865 บาท - ราคาทองใหม่
ราคาทองขายออก 2 สลึง = 61,850 ÷ 2 = 30,925 บาท - ค่ากำเหน็จลายใหม่
สำหรับทองครึ่งบาท ร้านทองมักคิดค่ากำเหน็จเฉลี่ย 300–600 บาท
สมมติให้เลือกลายใหม่ที่มีค่ากำเหน็จ 500 บาท - รวมราคาทองใหม่ = 30,925 + 500 = 31,425 บาท
ดังนั้นส่วนต่างที่ลูกค้าต้องจ่ายคือ 31,425 – 29,865 = 1,560 บาท (โดยประมาณ)
กล่าวคือการเปลี่ยนลายทอง 2 สลึงจะมีราคาที่ต้องจ่ายเพิ่มประมาณ 1,500–1,600 บาท ขึ้นอยู่กับค่ากำเหน็จของลายที่เลือกในวันนั้น
ตัวอย่างที่ 2 : เปลี่ยนสร้อยคอทองคำ 1 บาท
สมมติว่าราคาทอง ณ วันที่ไปเปลี่ยน (อ้างอิงราคาจากสมาคมค้าทองคำ)
- ราคาขายทองรูปพรรณ : 61,850 บาท
- ราคาทองรับซื้อคืน : 59,730 บาท
ลูกค้ามีสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท (ลายเก่า) ต้องการเปลี่ยนเป็นลายใหม่ โดยค่ากำเหน็จลายใหม่ อยู่ที่ 1,000 บาท ขั้นตอนในการคำนวณจะมีดังนี้
- ร้านรับซื้อคืนทองเก่า : 59,730 บาท
คือราคาที่ร้านจะรับซื้อคืนทองเส้นเดิมของลูกค้า - ราคาทองใหม่ : 61,850 บาท
คือราคาทองรูปพรรณใหม่ตามราคาขายออกของวันนั้น - บวกค่ากำเหน็จลายใหม่ : 1,000 บาท
ราคาทองใหม่พร้อมค่ากำเหน็จ จะเท่ากับ 61,850 + 1,000 = 62,850 บาท เมื่อนำมาหักลบกับราคาทองเก่าที่ร้านรับซื้อคืน 59,730 บาท ดังนั้น คำตอบของคำถามที่ว่าเปลี่ยนลายทอง 1 บาท ต้องเสียค่ากำเหน็จเท่าไร จะอยู่ที่ 62,850 – 59,730 = 3,120 บาท (โดยประมาณ)
อย่างไรก็ดี หากเลือกลายที่ค่ากำเหน็จน้อยกว่านี้ เช่น 500 บาท ส่วนต่างจะลดลงเหลือราว 2,620 บาท แต่ถ้าเลือกลายพิเศษ ค่ากำเหน็จ 1,500 บาท ส่วนต่างก็จะอยู่ที่ประมาณ 3,620 บาท

ค่ากำเหน็จในการเปลี่ยนลายทองไม่ตายตัว
จากตัวอย่างและข้อมูลข้างต้น จะเห็นได้ว่า ค่ากำเหน็จในการเปลี่ยนทองไม่มีราคาตายตัว แต่ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทั้งลวดลาย ความละเอียดของงาน เทคนิคการผลิต รวมถึงโปรโมชันของร้านทองในช่วงเวลานั้น ๆ โดยทั่วไปค่ากำเหน็จทองรูปพรรณจะอยู่ในช่วงประมาณ 500 – 2,000 บาทต่อบาททองคำ
ดังนั้น เวลาคิดค่ากำเหน็จ “เปลี่ยนลายทอง” จึงไม่ได้คำนวณแบบเหมาราคาเดียว แต่จะอิงตามความซับซ้อนของลวดลายและต้นทุนการทำงานจริงของช่างทองในแต่ละชิ้น ซึ่งทำให้แต่ละร้านมีเรตราคาที่ต่างกันเล็กน้อย
จะเปลี่ยนลายทอง หรือซื้อทองใหม่ ฮั่วเซ่งเฮงพร้อมให้บริการ
หากต้องการเปลี่ยนลายทองเก่าเป็นชิ้นใหม่ให้ทันสมัยถูกใจยิ่งขึ้น หรือไม่มีทองเก่ามาเทิร์นแต่แค่อยากหาทองรูปพรรณชิ้นใหม่ราคาสมคุณภาพเพื่อเป็นรางวัลให้กับชีวิต ที่ฮั่วเซ่งเฮง เราพร้อมให้บริการด้วยคอลเลกชันทองรูปพรรณหลากหลายสไตล์ ตั้งแต่ลวดลายคลาสสิกเหนือกาลเวลา ไปจนถึงดีไซน์สมัยใหม่ที่เปี่ยมด้วยเอกลักษณ์ ทุกชิ้นงานรังสรรค์ด้วยความประณีตโดยช่างฝีมือผู้ชำนาญ มั่นใจได้ในมาตรฐานทองคำ 96.5% เต็ม สามารถเลือกซื้อสร้อยทองคำ รวมถึงทองรูปพรรณชิ้นที่ใช่ในดีไซน์ต่าง ๆ ได้ที่ฮั่วเซ่งเฮงทุกสาขา หรือเลือกชมผ่านช่องทางออนไลน์ได้แล้ววันนี้
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เบอร์ 02 112 2222 ตลอดเวลาทำการ ตั้งแต่วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08.30-24.00 น. และเสาร์-อาทิตย์ เวลา 08.30-17.30 น.
แหล่งอ้างอิง
- คำถามที่พบบ่อย. สืบค้นเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2568 จาก https://www.goldtraders.or.th/FAQs.aspx
- ขายทองรูปพรรณ ได้ค่ากำเหน็จคืนไหม นายกสมาคมค้าทองคำเฉลยเอง. สืบค้นเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2568 จาก https://www.sanook.com/money/935723/?utm_source=chatgpt.com








