
เมื่อเราเห็นองค์พระพุทธรูปหรือวัตถุศักดิ์สิทธิ์ที่เปล่งประกายสีทองอร่ามตา สิ่งที่สร้างความงดงามนั้นมักจะเป็น “ทองคำเปลว” (Gold leaf) วัสดุที่ทำจากทองคำแท้ที่ถูกตีแผ่จนบางเหมือนกระดาษ ซึ่งทองคำเปลวมีบทบาทสำคัญในศิลปกรรมไทยมานานหลายศตวรรษ โดยมักใช้สำหรับการปิดทอง (Gilding) เพื่อเพิ่มความศักดิ์สิทธิ์และความสวยงามให้กับงานศิลปะทางศาสนา สำหรับใครที่สงสัยว่าทองคำเปลวคืออะไร ทำจากวัสดุอะไร และมีกระบวนการผลิตอย่างไร บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับทองคำเปลวอย่างละเอียด
ทองคำเปลวคืออะไร ?
ทองคำเปลว (Gold Leaf) คือทองคำแท้ที่ถูกตีแผ่จนบางเฉียบแทบโปร่งแสง ความบางของทองคำเปลวถูกวัดในระดับไมครอน ซึ่งบางกว่าความหนาของเส้นผมหลายสิบเท่า แต่ถึงจะบางขนาดนั้น ทองคำเปลวยังคงคุณค่าของทองคำแท้ครบถ้วน แตกต่างจากทองคำในรูปแบบอื่น ๆ เช่น ทองคำแท่งหรือทองรูปพรรณที่เน้นการสะสมและลงทุน ขณะที่ทองคำเปลวถูกออกแบบมาเพื่อใช้ในการตกแต่ง สืบทอดศิลปวัฒนธรรม และแสดงถึงความศรัทธา
คุณลักษณะพิเศษของทองคำเปลว
- ความบางที่ทำให้สามารถติดผิวโค้งได้ : ทองคำเปลวมีความยืดหยุ่นสูง สามารถแนบสนิทกับพื้นผิวที่มีความโค้งหรือซับซ้อนได้ง่าย จึงเหมาะกับการปิดองค์พระพุทธรูป หรือการประดับงานศิลปะที่ต้องการความประณีต
- การเล่นแสงที่สร้างความเปล่งประกาย : เมื่อทองคำเปลวสะท้อนกับแสงธรรมชาติหรือแสงไฟ จะให้ความแวววาวอันงดงาม ช่วยสร้างมิติและความหรูหราให้กับงานศิลป์หรือสิ่งปลูกสร้าง
- ความคงทนและไม่เปลี่ยนสี : ทองคำมีคุณสมบัติไม่เกิดสนิมและไม่หมองง่าย แม้เวลาผ่านไปนานหลายสิบปี ทองคำเปลวแท้ก็ยังคงสีเหลืองอร่ามสดใส
- ความสามารถในการปกป้องวัสดุพื้นฐาน : การปิดทองเปลวบนผิววัสดุ เช่น ไม้หรือโลหะ ช่วยเพิ่มความทนทาน ลดการผุกร่อน และยืดอายุการใช้งานของงานศิลป์หรือสถาปัตยกรรม
ตัวอย่างการใช้งานทองคำเปลว
- การปิดทอง (Gilding) องค์พระพุทธรูป : ถือเป็นการทำบุญที่นิยมอย่างแพร่หลาย โดยผู้ศรัทธาจะนำทองคำเปลวไปปิดบนองค์พระ เพื่อแสดงถึงความเลื่อมใส และเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต
- การตกแต่งสิ่งสักการะและงานศิลปกรรมทางศาสนา : ไม่ว่าจะเป็นแท่นบูชา พระพุทธรูปจำลอง หรือเครื่องประกอบพิธีกรรม มักถูกประดับด้วยทองคำเปลวเพื่อเพิ่มความงดงามและความศักดิ์สิทธิ์
- การใช้ในงานสถาปัตยกรรมและงานตกแต่งอันหรูหรา : ในอดีต วังและวิหารต่าง ๆ มักใช้ทองคำเปลวในการประดับเพดาน เสา หรือผนัง เพื่อสื่อถึงความรุ่งเรือง ปัจจุบันยังมีการนำทองคำเปลวมาประยุกต์ใช้ในงานออกแบบภายในที่ต้องการความหรูหราเหนือระดับ
ทองคำเปลวทำมาจากอะไร ?
ทองคำเปลวถือเป็นงานฝีมือที่ต้องอาศัยทั้งวัตถุดิบคุณภาพสูงและกระบวนการผลิตที่พิถีพิถัน วัสดุหลักที่ใช้คือตัวทองคำแท้ แต่ละขั้นตอนตั้งแต่การคัดเลือกทองคำจนถึงการตีให้แผ่บาง ล้วนมีผลต่อคุณภาพ ความงาม และความคงทนของทองคำเปลวที่ได้
วัตถุดิบหลัก : ทองคำแท้
ทองคำที่ใช้ทำทองคำเปลว จะต้องมีความบริสุทธิ์สูง โดยทั่วไปมักใช้ทองคำบริสุทธิ์ 99.99% หรือ 99.99% เพื่อให้ได้เนื้อทองที่นุ่ม และสามารถตีแผ่ได้โดยไม่แตก ความบริสุทธิ์ของทองคำจึงเป็นหัวใจสำคัญที่ส่งผลโดยตรงต่อคุณภาพ หากใช้ทองคำผสมโลหะอื่นมากเกินไป แผ่นทองจะไม่สามารถขยายจนบางได้ตามต้องการ และยังทำให้สีทองหมองลงอีกด้วย
วัสดุช่วยในกระบวนการผลิต
นอกจากทองคำแท้แล้ว ยังมีวัสดุและอุปกรณ์ที่ช่วยให้การผลิตเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนี้
- แผ่นกั้นที่ใช้ในการตีทอง (Beating Books) : เป็นชุดแผ่นกระดาษหรือหนังที่ใช้ห่อทองคำก่อนนำไปตี เพื่อป้องกันไม่ให้ทองแตกกระจาย และช่วยให้แรงตีแผ่กระจายทั่วถึง
- เครื่องมือพิเศษสำหรับการตีแผ่ : ใช้ค้อนและแท่นตีที่ทำขึ้นเฉพาะ เพื่อให้สามารถควบคุมแรงได้อย่างแม่นยำ
- สารช่วยในการแยกแผ่นทอง : มักเป็นแป้งหรือวัสดุเนื้อละเอียด ใช้โรยบาง ๆ เพื่อให้ทองคำเปลวแต่ละชั้นไม่ติดกันจนเกินไป
มาตรฐานคุณภาพ
ทองคำเปลวที่ได้มาตรฐาน ต้องผ่านการควบคุมคุณภาพหลายด้าน ดังนี้
- ความหนาของทองคำเปลว : โดยทั่วไปอยู่ที่ระดับ 0.1-0.3 ไมครอน บางพอให้ยืดหยุ่นแต่ยังคงความแข็งแรง
- การควบคุมคุณภาพในกระบวนการผลิต : ต้องตรวจสอบให้แผ่นทองมีความเรียบเนียนสม่ำเสมอ ไม่ขาดหรือเป็นรู
- การรับรองความบริสุทธิ์และความปลอดภัย : ทองคำเปลวแท้มักมีการการันตีแหล่งที่มาและเปอร์เซ็นต์ความบริสุทธิ์ เพื่อสร้างความมั่นใจแก่ผู้ใช้งาน
ความแตกต่างของเกรดทองคำเปลวในท้องตลาด
ในตลาดปัจจุบัน มีทั้งทองคำเปลวแท้ที่ทำจากทองคำบริสุทธิ์ และทองคำเปลวเทียมที่ทำจากโลหะอื่น เช่น ทองเหลืองหรืออะลูมิเนียม ซึ่งราคาของทองคำเปลวแท้ย่อมสูงกว่า แต่ก็แลกมาด้วยคุณสมบัติที่เหนือกว่า ทั้งในด้านความคงทน สีสัน และมูลค่า ขณะที่ทองคำเปลวเทียม เหมาะสำหรับงานตกแต่งทั่วไปที่ไม่ต้องการความทนถาวร

วิธีการทำทองคำเปลว
ขั้นตอนการเตรียมวัตถุดิบ
- หลอมทองคำบริสุทธิ์ให้เป็นแท่งขนาดที่เหมาะสมต่อการตี
- ทำความสะอาดทองคำเพื่อให้ปราศจากสิ่งเจือปน
- ตัดแบ่งทองคำเป็นชิ้นเล็ก ๆ เพื่อเตรียมเข้าสู่กระบวนการตี
กระบวนการตีแผ่ (Beating Process)
- ใช้เครื่องตีทองหรือวิธีดั้งเดิมที่ต้องอาศัยแรงคนและความชำนาญสูง
- ตีทองให้แผ่บางอย่างสม่ำเสมอ โดยต้องควบคุมแรงกระแทกอย่างแม่นยำ
- ตรวจสอบความหนาและความเรียบเพื่อให้ได้คุณภาพตามมาตรฐาน
- ใช้ “Beating Books” หรือแผ่นกั้นพิเศษ เพื่อป้องกันไม่ให้แผ่นทองติดกัน
ขั้นตอนการตกแต่งและเก็บรักษา
- แยกแผ่นทองแต่ละแผ่นออกจากกันอย่างระมัดระวัง
- ตัดทองคำเปลวให้ได้ขนาดมาตรฐาน เช่น 1.5 x 1.5 นิ้ว
- บรรจุลงในซองหรือสมุดทองคำเปลว เพื่อเก็บรักษาไม่ให้เสียหาย
ข้อควรระวังในการทำทองคำเปลว
- วิธีการทำทองคำเปลว เป็นกระบวนการที่ต้องอาศัยฝีมือ ความชำนาญ และประสบการณ์ของช่างผู้เชี่ยวชาญ
- การใช้แรงตีที่มากเกินไป อาจทำให้ทองขาดหรือไม่สม่ำเสมอ
- ปัจจัยสิ่งแวดล้อม เช่น ความชื้นและอุณหภูมิ มีผลต่อคุณภาพของทองคำเปลว
- แต่ละสำนักที่ผลิตมักมีเทคนิคเฉพาะตัวที่สืบทอดกันมา เพื่อรักษาคุณภาพและเอกลักษณ์ของทองคำเปลว
การดูแลรักษาและมูลค่าของทองคำเปลว
วิธีการดูแลรักษา
- ควรเก็บทองคำเปลวไว้ในซองหรือสมุดที่ออกแบบมาเฉพาะ เพื่อป้องกันไม่ให้แผ่นทองเสียรูปหรือฉีกขาด
- หลีกเลี่ยงการเก็บในที่ชื้น เพราะความชื้นอาจทำให้ทองคำเปลวเสื่อมสภาพหรือจับตัวกันเป็นก้อน
- หากเกิดการฉีกขาด ควรใช้แหนบหรือเครื่องมือปลายแหลมค่อย ๆ ยกขึ้น ไม่ควรใช้มือสัมผัสโดยตรงเพราะอาจทำให้ทองย่นหรือเสียหายได้
การปิดทองด้วยทองคำเปลว
- ก่อนติดทองคำเปลว ควรเตรียมพื้นผิวให้เรียบและสะอาด เช่น ขัดหรือทาสีรองพื้น เพื่อให้ทองติดแน่นและเรียบสวย
- เครื่องมือที่นิยมใช้ ได้แก่ พู่กัน แหนบ และสมุดทองคำเปลว ซึ่งช่วยให้การหยิบและวางแผ่นทองทำได้แม่นยำ
- เทคนิคที่สำคัญคือการวางทองลงบนพื้นผิวอย่างเบามือ และใช้พู่กันเกลี่ยให้แนบสนิท เพื่อให้เกิดความเรียบเนียนและแวววาวสวยงาม
มูลค่าและการลงทุน
- การประเมินมูลค่าทองคำเปลวขึ้นอยู่กับปริมาณทองคำแท้ที่ใช้ ความบริสุทธิ์ และความประณีตในกระบวนการผลิต
- ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อราคา ได้แก่ ความหนาของแผ่นทอง ความสม่ำเสมอ และคุณภาพการบรรจุ
- เมื่อเปรียบเทียบกับทองคำรูปแบบอื่น เช่น ทองคำแท่งหรือทองรูปพรรณ ราคาทองคำเปลวต่อแผ่นอาจต่ำกว่า แต่หากพิจารณาในแง่มูลค่าต่อกรัม ทองคำเปลวแท้ก็ยังคงสะท้อนราคาทองคำในตลาดโลกเช่นเดียวกัน
หลังจากได้เรียนรู้เกี่ยวกับความงามของทองคำเปลวแล้ว หากคุณสนใจสะสมทองคำแท้ ที่เป็นมาตรฐานการซื้อขายในประเทศไทย ที่ฮั่วเซ่งเฮง เรารับซื้อทองคำแท่ง 99.99% ขั้นต่ำ 1 กิโลกรัม และซื้อขายทอง 96.5% ผ่านระบบ GOLD ONLINE โดยอ้างอิงราคาทองคำตลาดโลก (Gold Spot) แบบ Real Time คุณจึงมั่นใจได้ว่าจะได้รับทองคำแท่ง 99.99 % และ ทองคำแท่ง 96.5% ในราคาที่ยุติธรรม โปร่งใส และได้ทองแท้ที่ผ่านการตรวจสอบอย่างพิถีพิถัน พร้อมให้บริการด้วยประสบการณ์กว่า 75 ปี
สามารถเลือกชมและสั่งซื้อได้ทั้งทางเว็บไซต์ และที่หน้าร้านของฮั่วเซ่งเฮงทุกสาขา พร้อมบริการหลังการขายที่ใส่ใจทุกรายละเอียด สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เบอร์ 02 112 2222 ตลอดเวลาทำการ ตั้งแต่วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08.30-24.00 น. และเสาร์-อาทิตย์ เวลา 08.30-17.30 น.
แหล่งอ้างอิง
- จากทองคำสู่ทองคำเปลว. สืบค้นเมื่อวันที่ 23 กันยายน 2568 จาก https://www.finearts.go.th/chantaburilibrary/view/17255-จากทองคำสู่ทองคำเปลว








