แนวโน้มราคาทอง
ขาขึ้น
- ทองทรงตัวขึ้น หลังงบฯ สหรัฐฯ สะดุดครั้งที่ 6
และ IMF หั่นคาดการณ์ GDP โลก แต่ดอลลาร์แข็ง
Gold spot
สูงสุด – 4,046 ดอลลาร์
ต่ำสุด – 4,001 ดอลลาร์
ราคาทองคำแท่ง
สูงสุด – 62,350 บาท
ต่ำสุด – 62,000 บาท
ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา
ทองโลกได้มีการพักตัวระยะสั้น จากการที่วุฒิสภาสหรัฐฯ ประสบความล้มเหลวในการผลักดันร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวเป็นครั้งที่ 6 ด้วยคะแนนเสียง 54 ต่อ 45 แต่คะแนนสนับสนุนไม่ถึง 60 คะแนน ซึ่งเป็นเกณฑ์สำคัญในการผ่านร่างกฎหมายเพื่อให้หน่วยงานของรัฐบาลมีงบประมาณไปจนถึงวันที่ 21 พ.ย. ในขณะที่นางคริสตาลินา กิออร์กิเอวา กรรมการผู้จัดการของ IMF ออกคำเตือนถึงความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของเศรษฐกิจโลก โดยอ้างอิงถึงทองคำที่ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 4,000 ดอลลาร์ สะท้อนความวิตกกังวลของตลาดเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว อีกทั้งรายงาน World Economic Outlook ฉบับล่าสุดเมื่อเดือนก.ค. IMF ได้คาดการณ์ว่า GDP โลกจะเติบโต 3% ในปีนี้ ลดลงเล็กน้อยจาก 3.3% ในปี 2024 อย่างไรก็ตาม ดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) มีแนวโน้มปรับตัวขึ้นเป็นวันที่ 4 สู่ระดับ 99.0 หน่วย จาก 97.95 หน่วย โดยยังคงสืบเนื่องมาจากเงินเยนอ่อนค่าหลังจากตลาดกังวลแนวโน้มการผ่อนคลายนโยบายการเงินและการคลังของญี่ปุ่น และเงินยูโรอ่อนค่าจากภาวะไร้เสถียรภาพทางการเมืองในฝรั่งเศส หลังจากที่นายเซบาสเตียน เลอกอร์นู นายกรัฐมนตรีฝรั่งเศส ประกาศลาออกจากตำแหน่ง
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
คืนนี้เวลา 19.30 มีการแถลงของนาย เจอโรม พาวเวล ประธานเฟด
วิเคราะห์ราคาทอง
ในระยะสั้น ทองโลกมีการปรับตัวลงทดสอบแนวรับบริเวณ 4,000 ดอลลาร์ และมีการฟื้นตัวกลับขึ้นไปในภายหลัง จึงประเมินว่า ทองโลกอาจปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 4,058 และ 4,080 ดอลลาร์ แต่หากทองโลกหลุดแนวรับถัดไปที่ 3,985 ดอลลาร์ ทองโลกอาจเข้าสู่ระยะขาลง
ราคาทองตลาดโลก
แนวรับ 4,000 และ 3,985 ดอลลาร์
แนวต้าน 4,058 และ 4,080 ดอลลาร์
ทองโลกอยู่ในระยะขาขึ้น แต่ระยะสั้นยังไม่แนะนำซื้อ จึงแนะนำใช้กลยุทธ์ย่อเก็บสะสมจากแนวรับที่ระดับ 4,000 ดอลลาร์ และขายทำกำไรหากราคาขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 4,058 ดอลลาร์ แต่หากราคาหลุดแนวรับที่ 3,985 ดอลลาร์ แนะนำขายตัดขาดทุน
ราคาทองคำแท่ง 96.5%
แนวรับ 61,900 และ 61,800 บาท
แนวต้าน 62,500 และ 62,650 บาท
ทองในประเทศอยู่ในระยะขาขึ้นตามทองโลก ในขณะที่ค่าเงินบาทอ่อนค่าเป็นปัจจัยหนุน จึงแนะนำขายตามแนวต้านที่ระดับ 62,500 และ 62,650 บาท และรอเข้าซื้อสะสมตามแนวรับที่ 61,900 บาท แต่หากราคาหลุดแนวรับที่ 61,800 บาท แนะนำขายตัดขาดทุน











