กองทุนทองคำ ที่ถือ ทองคำ มียอดเงินไหลเข้าสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2563 ในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 จากความวิตกต่อภาษีนำเข้าของทรัมป์และความผันผวนทางเศรษฐกิจ ส่งผลให้ราคาทองคำพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 3,500 ดอลลาร์
วันที่ 8 กรกฎาคม 2568 เวลา 23.37 น. สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า สภาทองคำโลก (World Gold Council) ระบุว่า กองทุน ETF ทองคำที่มีการถือครองทองคำจริง (Physically backed gold ETFs) มียอดเงินไหลเข้าสูงที่สุดในรอบครึ่งปี (6 เดือน) นับตั้งแต่ครึ่งปีแรกของปี 2563
โดยสงครามการค้าที่จุดชนวนโดยนโยบายภาษีของโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ทำให้นักลงทุนหันมาหาที่พักปลอดภัยจากความปั่นป่วนทางการเมืองและเศรษฐกิจ โดยทองคำ ETF ถือเป็นแหล่งความต้องการลงทุนที่สำคัญของโลหะมีค่านี้
ครึ่งปีแรกที่คึกคักในปีนี้เกิดขึ้นหลังจากในปี 2567 มีกระแสเงินไหลเข้าสุทธิในระดับปานกลาง หลังจากก่อนหน้านี้ทองคำ ETF เผชิญกระแสเงินไหลออกติดต่อกัน 3 ปี เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่สูง ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2568 กองทุนทองคำ ETF มีเงินไหลเข้าสูงถึง 38,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และการถือครองทองคำรวมเพิ่มขึ้น 397.1 เมตริกตัน
การไหลเข้าดังกล่าวทำให้ยอดการถือครองรวมของ ETF ทองคำเพิ่มขึ้นเป็น 3,615.9 ตัน ณ สิ้นเดือนมิถุนายน ซึ่งเป็นระดับสูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2565 โดยสถิติสูงสุดตลอดกาลอยู่ที่ 3,915 ตัน ในเดือนตุลาคม 2563
กองทุนที่จดทะเบียนในสหรัฐ เป็นผู้นำในการไหลเข้าของทองคำในช่วงครึ่งปีแรก โดยมีปริมาณเพิ่มขึ้น 206.8 ตัน ขณะที่กองทุนในเอเชียมีการไหลเข้า 104.3 ตัน ตามรายงานของ WGC
“แม้แรงซื้อจะชะลอลงในเดือนพฤษภาคมและมิถุนายน แต่นักลงทุนในเอเชียก็ซื้อทองคำ ETF ในปริมาณสูงเป็นประวัติการณ์ในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ โดยมีสัดส่วนถึง 28% ของกระแสเงินไหลเข้าสุทธิทั่วโลก ทั้งที่มีสัดส่วนสินทรัพย์ภายใต้การบริหารเพียง 9% ของทั้งโลก”
ทั้งนี้ราคาทองคำสปอตในปีนี้ปรับตัวขึ้นแล้ว 26% โดยเคยแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 3,500 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา
อ้างอิง : reuters.com
ที่มา : การเงินธนาคาร
