แนวโน้มราคาทอง

  • ระวังแรงเทขาย
  • ทองคำฟื้นตัวขึ้น หลังจากที่วันศุกร์ราคาทองคำปรับตัวลงแรง

.

ราคาทองคำ Spot ช่วงกลางวันฟื้นตัวขึ้น หลังจากที่วันศุกร์ราคาทองคำปรับตัวลงแรงจากจุดสูงสุดของปีนี้ที่ระดับ 2,048 ดอลลาร์ เนื่องจากเฟดจำเป็นต้องขึ้นดอกเบี้ยต่อไป ทำให้เงินดอลลาร์แข็งกดดันราคาทองคำ อย่างไรก็ตามคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นการปรับขึ้นครั้งสุดท้ายของเฟดในปีนี้ การคาดการณ์ว่าเฟดจะยุติวงจรการขึ้นดอกเบี้ยก็ทำให้กลายเป็นแรงหนุนให้ทองคำฟื้นตัว ขณะที่ทางเจเน็ต เยลเลน ก็ได้แสดงความคิดเห็นว่าเฟดยังไม่ควรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นอีกเช่นกัน เนื่องจากตอนนี้ธนาคารพาณิชย์ในสหรัฐเริ่มมีการปล่อยกู้ที่เข้มงวดมากขึ้น ส่วนทางเจพีมอร์แกน ก็เตือนนักลงทุน-ภาคธุรกิจให้รับมือกับผลกระทบของภาวะอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นที่มีแนวโน้มเกิดขึ้นเป็นเวลานานกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ทำให้มีแนวโน้มเผชิญต่อภาวะสินเชื่อตึงตัว และความไม่แน่นอนที่อาจจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ

.

ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม

คืนนี้สหรัฐจะเปิดเผยดัชนีการผลิตรัฐนิวยอร์กเดือนเม.ย. ตลาดคาดว่าจะลดลง 17.7 จากที่ลดลง 24.6 ในเดือนมี.ค.

แนวโน้มราคาทองคำ

ราคาทองคำคาดว่าจะฟื้นตัวไปยังบริเวณ 2,015-2,020 ดอลลาร์ หากยังไม่สามารถผ่านบริเวณดังกล่าวได้ อาจเกิดแรงเทขายออกมาอีกครั้ง โดยราคาทองคำมีแนวต้านที่ 2,020 ดอลลาร์ (GF 32,920 บาท) และแนวต้านถัดไป 2,030 ดอลลาร์ (GF 33,000 บาท) ขณะที่มีแนวรับที่ 2,000 ดอลลาร์ (GF 32,720 บาท) และแนวรับถัดไปที่ 1,990 ดอลลาร์ (GF 32,600 บาท) สำหรับ Gold Online Futures มีแนวต้านที่ 2,045 ดอลลาร์ และแนวต้านถัดไป 2,055 ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวรับที่ 2,025 ดอลลาร์ และ 2,015 ดอลลาร์ กลยุทธ์การลงทุน แนะนำรอเปิดสถานะซื้อบริเวณราคา 2,000 ดอลลาร์  (GF 32,720 บาท) โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,990 ดอลลาร์ (GF 32,600 บาท)   การลงทุนใน Gold Online แนะนำรอเปิดสถานะ:ซื้อบริเวณราคา GOM23 ที่ 2,025 ดอลลาร์ โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 2,015 ดอลลาร์

ราคาทองตลาดโลก

แนวรับ 2,000 และ 1,990 ดอลลาร์
แนวต้าน 2,020 และ 2,030 ดอลลาร์

ราคาทองคำแท่ง 96.5%

แนวรับ 32,500 และ 32,400 บาท
แนวต้าน 32,700 และ 32,800 บาท