แนวโน้มราคาทอง

  • ปรับตัวขึ้น
  • นักลงทุนเข้าซื้อทองคำป้องกันความเสี่ยงเงินเฟ้อ ส่วนเงินบาทแข็งค่าในวันนี้

.

ราคาทองคำ Spot ในช่วงกลางวันปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง เนื่องจากนักลงทุนเริ่มเข้าซื้อทองคำเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ จากที่ตัวเลขเงินเฟ้อในยุโรปปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่ธนาคารทั่วโลกก็หันมาสำรองทองคำมากขึ้น โดยธนาคารกลางทั่วโลกได้มีการซื้อทองคำเป็นทุนสำรองรวมกันถึง 1,136 ตันในปี 2565 ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่า 152% จากปี 2564 และเป็นการซื้อทองคำติดต่อกันเป็นปีที่ 13 โดยเป็นปีที่มียอดซื้อสุทธิสูงสุดเป็นอันดับ 2 รองจากปี 2510 โดยการเข้าซื้อส่วนใหญ่มาจากธนาคารกลางตุรเคีย ที่เข้าซื้อต่อเนื่องตลอดทั้งปี 2565 รวมซื้อสุทธิกว่า 148 ตัน ซึ่งสูงกว่าปี 2562 รองลงมาก็ธนาคารกลางจีน ขณะที่อินเดียก็ยังเป็นผู้ซื้อทองคำในปี 2565 โดยเพิ่มขึ้น 33 ตัน แต่ลดลง 57% เมื่อเทียบกับปี 2564 ที่ซื้อ 77 ตัน ซึ่งคาดว่าปีนี้ธนาคารกลางยังคงเข้าซื้อทองคำต่อเนื่อง แต่ไม่มากเท่าปีก่อน ขณะที่ค่าเงินบาทวันนี้กลับแข็งค่า แต่ยังมีแนวโน้มอ่อนค่า หลังจากไทยพลิกกลับมาขาดดุลบัญชีเดินสะพัดในเดือนม.ค.

.

ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม

คืนนี้สหรัฐจะเปิดเผยดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนก.พ.โดย ISM  ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 47.9 จาก 47.4 ในเดือนม.ค.

แนวโน้มราคาทองคำ

ราคาทองคำมีแนวโน้มปรับตัวขึ้น ซึ่งคาดว่าระยะสั้นราคาทองคำอาจปรับตัวขึ้นไปยังบริเวณ 1,840-1,845 ดอลลาร์ ให้ระวังแรงขายบริเวณนี้อีกครั้งหนึ่ง โดยราคาทองคำมีแนวต้านที่ 1,840 ดอลลาร์ (GF10J23 30,620 บาท) และ 1,855 ดอลลาร์ (GF10J23 30,720 บาท) ขณะที่มีแนวรับที่ 1,822 ดอลลาร์ (GF10J23 30,400 บาท) และแนวรับถัดไปที่ 1,810 ดอลลาร์ (GF10J23 30,280 บาท) สำหรับ Gold Online Futures มีแนวต้านที่ 1,850 ดอลลาร์ และ 1,865 ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวรับที่ 1,832 ดอลลาร์ และ 1,820 ดอลลาร์ กลยุทธ์การลงทุน แนะนำเปิดสถานะซื้อบริเวณราคา 1,822 ดอลลาร์  (GF10J23 30,400 บาท)  โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,810 ดอลลาร์ (GF10J23 30,280 บาท)  การลงทุนใน Gold Online  แนะนำเปิดสถานะซื้อบริเวณราคา GOH23 ที่ 1,832 ดอลลาร์ โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,820 ดอลลาร์

ราคาทองตลาดโลก
แนวรับ 1,822 และ 1,810 ดอลลาร์
แนวต้าน 1,840 และ 1,855 ดอลลาร์

ราคาทองคำแท่ง 96.5%
แนวรับ 30,200 และ 30,100 บาท
แนวต้าน 30,400 และ 30,500 บาท