.

นางคริสตาลินา กอร์เกียวา กรรมการจัดการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวของสำนักข่าวซีเอ็นบีซี นอกรอบการประชุม World Economic Forum (WEF) ว่า จีนจำเป็นต้องปฏิรูปโครงสร้าง เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เศรษฐกิจของประเทศชะลอตัวลงอย่างรุนแรง พร้อมกับเตือนว่า เศรษฐกิจจีนกำลังเผชิญกับความท้าทายทั้งในระยะสั้นและระยะยาว

 

นางกอร์เกียวากล่าวว่า ความท้าทายในระยะสั้นสำหรับจีนคือวิกฤตการณ์ในภาคอสังหาริมทรัพย์ที่จำเป็นต้องได้รับการแก้ไข รวมทั้งหนี้สินของรัฐบาลท้องถิ่นที่อยู่ในระดับสูงมาก ส่วนความท้าทายในระยะยาวคือการเปลี่ยนแปลงของจำนวนประชากร และภาวะขาดความเชื่อมั่นที่เกิดขึ้นในประเทศ

 

“ท้ายที่สุดแล้ว สิ่งที่จีนจำเป็นต้องทำคือการปฏิรูปโครงสร้าง เพื่อให้จีนยังคงสามารถเปิดกว้างทางเศรษฐกิจได้ต่อไป และเพื่อให้รูปแบบการเติบโตทางเศรษฐกิจที่มุ่งเน้นการอุปโภคบริโภคภายในประเทศนั้น มีความสมดุลมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ การปฏิรูปโครงสร้างยังเป็นสิ่งจำเป็นต่อการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนของจีน เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนมีการใช้จ่ายมากขึ้น”

 

“ทั้งหมดนี้ จะช่วยให้จีนสามารถหลีกเลี่ยงไม่ให้เศรษฐกิจชะลอตัวลงอย่างรุนแรง โดยเราคาดว่าหากจีนไม่ดำเนินการปฏิรูปโครงสร้าง ก็อาจทำให้การขยายตัวของเศรษฐกิจจีนชะลอลงสู่ระดับต่ำกว่า 4%” นางกอร์เกียวากล่าวกับผู้สื่อข่าวของซีเอ็นบีซีเมื่อวานนี้ (15 ม.ค.)

 

ทั้งนี้ นางกอร์เกียวา เป็นหนึ่งในเจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านเศรษฐกิจที่เข้าร่วมการประชุม WEF ประจำปี 2024 ซึ่งจัดขึ้นที่เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยการประชุมจะจัดไปจนถึงวันศุกร์ที่ 19 ม.ค. ภายใต้หัวข้อ “Rebuilding Trust” ซึ่งที่ประชุมจะมีการอภิปรายในประเด็นความตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์ รวมทั้งประเด็นเงินเฟ้อและการเติบโตทางเศรษฐกิจ

 

สำนักงานสถิติแห่งชาติจีนมีกำหนดเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในวันพุธที่ 17 ม.ค.นี้ ขณะที่ IMF คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่า ตัวเลข GDP ปี 2566 ของจีนอาจจะขยายตัวได้ถึง 5.4% หลังจากรัฐบาลจีนออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจบางส่วน

 

อย่างไรก็ดี IMF คาดการณ์ว่า ตัวเลข GDP จีนจะชะลอตัวลงสู่ระดับ 4.6% ในปี 2567 เนื่องจากวิกฤตการณ์ในภาคอสังหาริมทรัพย์ยังคงส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจจีน

 

ที่มา  สำนักข่าวอินโฟเควสท์