.

การลงมติเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐมีอันต่อเลื่อนออกไปในวันพฤหัสบดี (5 ม.ค.) หลังนายเควิน แมคคาร์ธี ผู้นำสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคริพับลิกัน เผชิญแรงต้านเป็นครั้งที่ 11 ในการลงมติคัดเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสังกัดพรรคริพับลิกัน 20 ราย เนื่องจากยังไม่ได้รับข้อตกลงที่น่าพึงพอใจ

 

ทั้งนี้ นายแมคคาร์ธีพยายามอย่างหนักที่จะผ่าทางตันครั้งนี้ ด้วยการเสนอผ่อนปรนกฎเกณฑ์ในสภาผู้แทนราษฎรเท่าที่จะทำได้ อันจะลดทอนอำนาจและความสามารถของเขาในการควบคุมกลุ่มหัวรุนแรงภายในพรรคริพับลิกัน ซึ่งเสี่ยงที่จะเพิ่มความวุ่นวายในการผลักดันวาระต่าง ๆ เช่น เพดานหนี้สาธารณะและการใช้จ่ายภาครัฐ โดยปัจจุบันพรรคริพับลิกันเป็นฝ่ายครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ หลังชนะศึกเลือกตั้งกลางเทอมในเดือนพ.ย.

 

อย่างไรก็ตาม หลังจัดการลงมติมาถึง 3 วัน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้ง 20 รายยังคงผนึกกำลังกันอย่างเหนียวแน่นที่จะต่อต้านนายแมคคาร์ธี ทำให้เขาได้คะแนนเสียงไม่เพียงพอที่จะก้าวขึ้นดำรงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ

 

ความพ่ายแพ้ครั้งแล้วครั้งเล่าของนายแมคคาร์ธีได้ทุบสถิติการคว้าน้ำเหลวในการลงมติประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐนับตั้งแต่หลังยุคสงครามกลางเมือง โดยในปี 2466 นายเฟรดเดอริค ยิลเลตต์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสังกัดพรรคริพับลิกันจากรัฐแมสซาชูเซตส์ต้องเผชิญการลงมติ 9 ครั้งจึงผ่านการอนุมัติ ขณะที่ในปี 2402 สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐต้องลงมติกันถึง 44 ครั้งจึงได้ประธานสภาผู้แทนราษฎร

 

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ทางฝั่งของกลุ่มผู้คัดค้านนั้นให้ความสนใจกับการปรับแก้ด้านกระบวนการมากที่สุด โดยพวกเขาได้หารือกับบรรดาผู้นำและผู้ไกล่เกลี่ยตลอดทั้งวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา เพื่อบรรลุข้อตกลงที่จะทำให้นายแมคคาร์ธีได้รับคะแนนเสียงจากพวกเขา

 

นายชิป รอย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากรัฐเท็กซัส นายสกอตต์ เพอร์รี ผู้แทนราษฎรสหรัฐจากรัฐเพนซิลเวเนีย และนายไบรอน โดนัลด์ส สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากรัฐฟลอริดาเป็นหัวหอกของการเจรจาเรื่องการแก้ไขเกี่ยวกับขั้นตอน เพื่อแลกกับคะแนนเสียงของพวกเขา โดยพวกเขาต้องการเปิดกว้างกระบวนการขั้นพื้นฐานเพื่อที่จะสามารถแก้ไขการลงมติต่าง ๆ รวมถึงขัดขวางการออกร่างกฎหมายชุดใหม่ และรับประกันว่าฝ่ายอนุรักษ์นิยมจะคว้าเก้าอี้ในคณะกรรมการสำคัญ ๆ ได้มากขึ้น

 

อนึ่ง สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐวางแผนกลับมาจัดประชุมอีกครั้งในช่วงเที่ยงคืนของวันนี้ (6 ม.ค.) ตามเวลาไทย

 

ที่มา สำนักข่าวอินโฟเควสท์