.

หุ้นกลุ่มธนาคารระดับภูมิภาคในสหรัฐยังคงปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง แม้เจพีมอร์แกนเข้าซื้อกิจการธนาคารเฟิร์สท์ รีพับลิก แบงก์ (FRB) ในสัปดาห์นี้ โดยหุ้นกลุ่มดังกล่าวปรับตัวลดลงในช่วงเช้าวันอังคาร (2 พ.ค.) ตามเวลาสหรัฐ เนื่องจากนักลงทุนพยายามซึมซับข่าวการเทคโอเวอร์กิจการ FRB ควบคู่ไปกับการเผยข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่อ่อนแอ

 

ทั้งนี้ หุ้นแพคเวสต์ (PacWest) ถูกระงับการซื้อขายเป็นการชั่วคราว หลังราคาหุ้นผันผวนอย่างหนักและลดลง 35% ในช่วงสายตามเวลานิวยอร์ก ซึ่งเป็นการปรับลดลงรายวันครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 10 มี.ค. ซึ่งเป็นช่วงที่การล่มสลายของซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ (SVB) สร้างแรงกดดันต่อภาคธนาคารโดยรวม โดยแพคเวสต์ถูกมองว่าเป็นหนึ่งในกลุ่มธนาคารระดับภูมิภาคขนาดกลางที่อ่อนแอที่สุดในสหรัฐ ส่วนหุ้นเวสเทิร์น อลิอันซ์ (Western Alliance) ทรุดลงเกือบ 22%

 

ธนาคารแพคเวสต์และเวสเทิร์น อลิอันซ์ต่างก็ถูกจับตามอง เพราะมีลักษณะคล้ายคลึงกับ SVB และ FRB ซึ่งถูกบรรษัทรับประกันเงินฝากของรัฐบาลกลางสหรัฐ (FDIC) เข้าควบคุม หลังเผชิญภาวะแห่ถอนเงินฝากเป็นจำนวนมหาศาลและขาดทุนทางบัญชีจากสินทรัพย์ระยะยาวครั้งใหญ่ โดยเจพีมอร์แกนได้ซื้อเงินฝากและสินทรัพย์ส่วนใหญ่ของ FRB ไปเมื่อวันจันทร์ที่ 1 พ.ค.

 

ดัชนี KBW ซึ่งเป็นดัชนีหุ้นกลุ่มธนาคารระดับภูมิภาคของสหรัฐ ร่วงลงกว่า 5% ในช่วงเช้าวานนี้ตามเวลานิวยอร์ก

 

ขณะเดียวกัน หุ้นกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่ก็ลดลงเช่นกัน แม้จะไม่มากนัก โดยหุ้นโกลด์แมน แซคส์และมอร์แกน สแตนลีย์ลดลงหุ้นละเกือบ 3% ส่วนเจพีมอร์แกนลดลงประมาณ 1.4%

 

หุ้นกลุ่มธนาคารเป็นหุ้นที่เคลื่อนไหวตามวัฏจักรเศรษฐกิจอย่างสูง  ทางด้านสำนักงานสถิติของกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) ประจำเดือนมี.ค. พบว่า ตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน ซึ่งเป็นมาตรวัดอุปสงค์ในตลาดแรงงาน ปรับตัวลงเป็นเดือนที่ 3 แตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. 2564

 

กลุ่มนักลงทุนและผู้บริหารระดับสูงหลายรายต่างออกโรงเตือนเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะเกิดผลกระทบเพิ่มเติมจากเหตุการณ์ธนาคารล้ม

 

นายเดวิด ฮันต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทพีจีไอเอ็ม (PGIM) กล่าวเมื่อวันจันทร์ว่า “เราเพิ่งเริ่มเห็นความเกี่ยวข้องที่ปัญหาในภาคธนาคารมีต่อเศรษฐกิจสหรัฐเท่านั้น” ขณะที่นายริชี คาปูร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วมของบริษัทอินเวสต์คอรป์ (Investcorp) ระบุว่า “ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ผลกระทบอันดับสองและอันดับสามในภาคธนาคารสหรัฐ …จะจำกัดภาวะทางการเงิน”

 

ธนาคารระดับภูมิภาคมักจะปล่อยกู้ให้กับภาคอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ ซึ่งเป็นภาคส่วนที่ตกอยู่ภายใต้ความวิตกกังวลเมื่อไม่นานมานี้ เพราะได้รับผลกระทบจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นและความวิตกกังวลว่าการทำงานจากที่บ้านจะลดอุปสงค์การใช้พื้นที่สำนักงาน

 

ในการให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวไฟแนนเชียล ไทม์เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา นายชาร์ลี มังเกอร์ รองประธานบริษัทเบิร์กเชียร์ ฮาธาเวย์เตือนว่า ธนาคารระดับภูมิภาคของสหรัฐนั้น “เต็มไปด้วย” หนี้เสียจากอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์

 

ที่มา  สำนักข่าวอินโฟเควสท์