ทองโลกและทองไทย All-Time High

Gold Bullish

  • ภาวะเศรษฐกิจโลกมีความเสี่ยงเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย
  • ความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ สงครามยูเครน-รัสเซีย สงครามอิสราเอล-ฮามาส
  • ธนาคารกลางทั่วโลกเข้าซื้อทองคำต่อเนื่อง

Gold Bearish

  • เฟดอาจจะตรึงดอกเบี้ยระดับสูงนานขึ้น

ทองโลกและทองไทย All-Time High จับตา 2 war ที่อาจร้อนระอุขึ้น

สัปดาห์ที่ผ่านมาราคาทองคำ spot และราคาทองไทยปรับตัวขึ้นสู่ All-Time High รอบใหม่ นับว่าปีนี้เป็นปีที่ดีของทองคำ ราคาทองคำ spot ได้ขึ้นไปสู่ระดับสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ (All-Time High) ที่ 2,222 ดอลลาร์ ก่อนที่จะเกิดแรงเทขายออกมาในช่วงปลายสัปดาห์ ซึ่ง ณ ตอนนี้ราคาทองคำให้ผลตอบแทนกว่า 4.9% ในปีนี้ แต่ราคาทองคำแท่งในประเทศกลับร้อนแรงยิ่งกว่า ได้ขึ้นสู่ระดับสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ (All-Time High)ที่ 37,650 บาท ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นกว่า 16 ครั้งในปีนี้ และให้ผลตอบแทนกว่า 10.99% เพียงใช้เวลาผ่านไปแค่ 3 เดือนเท่านั้น นับว่าปีนี้ หากมีการเข้าซื้อทองคำแท่งโดยตรงจะได้รับผลตอบแทนมากกว่าการซื้อกองทุนรวมทองคำ

.
ปัจจัยหนุนราคาทองคำ จากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยลดลงของสหรัฐ หลังจากเฟดยืนยันลดดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้ ทั้งนี้ตลาดคาดว่าเฟดจะเริ่มลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมิ.ย. เป็นครั้งแรก ซึ่งเหลือเพียงไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ ขณะที่ยังมีอีกหลายปัจจัยที่คาดว่าจะหนุนราคาทองคำในช่วงที่เหลือของปีนี้ ได้แก่ แรงซื้อทองคำของธนาคารกลางต่าง ๆ ทั่วโลก โดยเฉพาะจีน ความไม่แน่นอนของการเลือกตั้งสหรัฐในปีนี้ และความตึงเครียดทางด้านภูมิรัฐศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นสงครามอิสราเอล-กลุ่มฮามาส และสงครามรัสเซีย-ยูเครน

.

จับตา 2 war ที่อาจร้อนระอุขึ้น
สงครามอิสราเอล-กลุ่มฮามาส อิสราเอลยังคงเน้นย้ำว่าอิสราเอลจะโจมตีกลุ่มฮามาส ซึ่งรวมถึงเมืองราฟาห์ และรัฐบาลก็ได้อนุมัติต่อแผนในการใช้ปฎิบัติการครั้งนี้เรียบร้อยแล้ว แม้จะมีคำเตือนจากสหรัฐ แต่อิสราเอลเมินคำเตือนสหรัฐ และเน้นย้ำว่ากองทัพอิสราเอลจะบุกโจมตีเมืองราฟาห์ทางตอนใต้ของฉนวนกาซา และทำลายกลุ่มฮามาสในท้ายที่สุด “แม้ว่าทั้งโลกรวมถึงสหรัฐ จะเป็นศัตรูกับอิสราเอลก็ตาม” ส่งผลด้านมนุษยธรรม ความรุนแรงที่เกิดขึ้นอาจหนุนแรงซื้อทองคำที่เป็นสินทรัพย์ปลอดภัยอยู่

.
สงครามรัสเซีย-ยูเครน ซึ่งการเลือกตั้งรัสเซียพึ่งผ่านไป ผลการเลือกตั้ง ยังคงเป็นประธานาธิบดีปูตินที่มีคะแนนถล่มทลายกว่า 88% ตัวเลขตรงนี้สะท้อนถึงคนรัสเซียยังหนุนปูติน โดยเฉพาะเรื่องสงคราม ล่าสุดปูติน ได้ขู่จะใช้อาวุธนิวเคลียร์ หากนาโต ส่งกำลังทหารเข้าไปในยูเครน ซึ่งหากเมื่อใดมีการเกิดยิงนิวเคลียร์จากรัสเซียขึ้นมา จะดันราคาทองคำขึ้นแรง ขณะที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมรัสเซีย เปิดเผยถึงการผลิตกระสุนปืนใหญ่เพิ่มขึ้นเกือบ 2.5 เท่าในปี 2566 ขณะที่การผลิตส่วนประกอบปืนใหญ่ได้เพิ่มขึ้นถึง 22 เท่า และแหล่งข่าวยังเผยอีกว่ารัสเซียผลิตกระสุนปืนใหญ่ได้มากกว่าสหรัฐและยุโรปรวมกันเกือบ 3 เท่า สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามของรัสเซียในการเร่งจัดหาอาวุธ ให้เร็วกว่าที่ชาติตะวันตกจัดหาให้ยูเครนได้ ทำให้ชาติตะวันตกกังวลว่า รัสเซียจะมีความได้เปรียบในการเอาชนะในสงครามได้มากขึ้น รวมถึงสหรัฐและยุโรปซึ่งสภานิติบัญญัติเริ่มวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของการ “อุ้มยูเครน” จนสั่นสะเทือนสถานะการคลังโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่หลายประเทศกำลังเข้าสู่การเลือกตั้ง

.

แม้ว่าสัญญาณทางเทคนิคของราคาทองรายวันจะส่งสัญญาณการปรับตัวลง จาก MACD ที่เส้น MACD ตัดเส้น Signal ลงมา และ Modified Stochastic ที่ %K ตัด %D ลงมาเช่นกัน แต่คาดว่าเป็นการปรับฐานระยะสั้น ทั้งนี้คาดว่าราคาทองคำจะปรับลงสู่แนวรับ 2,150 ดอลลาร์ หากหลุดแนวรับดังกล่าวมีโอกาสที่ปรับตัวลงต่อสู่แนวรับ 2,130 ดอลลาร์ ซึ่งแนวรับนี้ยังเป็นแนวรับที่สามารถเข้าซื้อเก็งกำไรระยะสั้นได้ อย่างไรก็ตาม หากมีความรุนแรงด้านสงครามเกิดขึ้น อาจยังหนุนราคาทองคำอยู่ และจะเกิดการปรับฐานไม่ลึกมากนัก สัปดาห์นี้ราคาทองคำมีแนวรับอยู่ที่  2,150 ดอลลาร์ และ 2,130 ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้าน 2,180 ดอลลาร์ และแนวต้าน 2,195 ดอลลาร์ ส่วนราคาทองแท่งในประเทศมีแนวรับ 37,200 บาท และ 37,000 บาท ขณะที่มีแนวต้านที่ 37,500 บาท และ 37,650 บาท

ดาวน์โหลดเอกสาร