.         

รัสเซียใช้อำนาจวีโต้คัดค้านมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ว่าด้วยการขยายวาระการปฏิบัติหน้าที่ของคณะผู้เชี่ยวชาญที่เฝ้าจับตาโครงการนิวเคลียร์เกาหลีเหนือมาตลอด 15 ปี โดยความเคลื่อนไหวดังกล่าวเน้นย้ำถึงความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นระหว่างรัสเซียกับเกาหลีเหนือ

 

คณะผู้เชี่ยวชาญดังกล่าวทำหน้าที่สังเกตการณ์การบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรของ UNSC ต่อเกาหลีเหนือ เพื่อสกัดกั้นเกาหลีเหนือจากการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ อย่างไรก็ตาม เกาหลีเหนือได้ปฏิเสธมติของ UNSC หลายต่อหลายครั้ง พร้อมกับเดินหน้าพัฒนาหัวรบนิวเคลียร์และขีปนาวุธต่อไป

 

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า 13 ชาติสมาชิก UNSC เห็นด้วยที่จะขยายวาระการปฏิบัติหน้าที่ของคณะผู้เชี่ยวชาญดังกล่าว อย่างไรก็ตาม จีนซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกถาวรได้งดออกเสียง ขณะที่รัสเซียซึ่งเป็นสมาชิกถาวรเช่นกันได้ใช้อำนาจวีโต้เพื่อสกัดกั้นไม่ให้มติดังกล่าวมีผลบังคับใช้ ซึ่งหมายความว่าคณะผู้เชี่ยวชาญดังกล่าวจะสิ้นสุดวาระการปฏิบัติหน้าที่ในวันที่ 30 เม.ย.นี้

 

ทั้งนี้ สหรัฐและชาติพันธมิตรใกล้ชิดในเอเชียอย่างญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ กล่าวหาว่านายคิม จองอึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ ได้จัดหาอาวุธยุทโธปกรณ์เพื่อสนับสนุนรัสเซียในการทำสงครามกับยูเครน เพื่อแลกกับการรับความช่วยเหลือด้านต่าง ๆ จากรัสเซีย เช่น การจัดหาอาหารและสิ่งของจำเป็น

 

นายโรเบิร์ต วูด รองเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำสหประชาชาติ กล่าวหลังการลงมติว่า “รัสเซียได้บ่อนทำลายโอกาสในการแก้ไขปัญหาการแพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์ที่อันตรายที่สุดในโลกด้วยสันติวิธีและการทูต”

 

ขณะที่นายจอห์น เคอร์บี โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐ ระบุว่า การลงมติของรัสเซียเป็น “การกระทำที่ไม่ยั้งคิด” ซึ่งบ่อนทำลายโอกาสในการคว่ำบาตรการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์และการยิงขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ

 

ที่มา  สำนักข่าวอินโฟเควสท์