SET50 Futures
ขายใกล้แนวต้าน 960 จุด
ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นในปริมาณค่อนข้างมากในการซื้อขายวันพุธก่อนที่จะปิดทำการต่อเนื่องในวันพฤหัสและศุกร์ แรงซื้อมีเข้ามาตั้งแต่ช่วงเปิดตลาดและในระหว่างวันแรงซื้อที่มีเข้ามามากในหุ้นขนาดใหญ่ในกลุ่มชิ้นส่วนอิเลคทรอนิคส์ ส่งผลให้ดัชนีดีดตัวขึ้นก่อนที่จะปิดตลาดใกล้ระดับสูงสุดของวัน และเป็นการปิดตลาดเพิ่มขึ้นต่อเนื่องติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 2
แรงซื้อในตลาดหุ้นไทยในการซื้อขายวันพุธมาจากนักลงทุนต่างประเทศและนักลงทุนสถาบันซึ่งซื้อสุทธิ 2.47 พันล้านบาท และ 619 ล้านบาท ตามลำดับ แรงขายส่วนใหญ่มาจากนักลงทุนรายย่อยซึ่งขายสุทธิ 2.66 พันล้านบาท ในตลาดอนุพันธ์นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิใน SET50 Index Futures ด้วยปริมาณ 927 สัญญา
ตลาดหุ้นต่างประเทศปิดตลาดเพิ่มขึ้นในการซื้อขายวันพฤหัสและศุกร์ หลังทราบผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐซึ่งปรับขึ้นดอกเบี้ยร้อยละ 0.75 จากระดับร้อยละ 1.75 สู่ร้อยละ 2.5 ตามที่นักลงทุนส่วนใหญ่ประเมิน ธนาคารกลางสหรัฐประเมินว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีความแข็งแกร่งและจะไม่เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยแต่ยังต้องใช้นโยบายเพื่อควบคุมเงินเฟ้อต่อไป ส่วนการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่น่าสนใจในช่วงที่ตลาดการเงินของไทยปิดทำการนั้น กลับมีสัญญาณการชะลอตัวของเศรษฐกิจหลังรายงานผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศไตรมาส 2 ของสหรัฐหดตัวลงร้อยละ 0.9 หดตัวต่อเนื่องจากไตรมาสแรกซึ่งหดตัวร้อยละ 1.6 ในขณะที่ดัชนีการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคลเดือนมิถุนายนขยายตัวขึ้นร้อยละ 6.8 ทำสถิติสูงสุดนับแต่เดือนมกราคม 2525 บ่งชี้ถึงภาวะเงินเฟ้อในสหรัฐที่เคลื่อนไหวในระดับสูง และเป็นประเด็นที่คาดว่าจะทำให้ธนาคารกลางสหรัฐปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อไป
สัญญาเดือน U แกว่งตัวผันผวนในการซื้อขายวันพุธ ก่อนที่จะปิดตลาดใกล้ระดับแนวต้านสำคัญทางเทคนิค จึงต้องระวังแรงขายที่คาดว่าจะมีกลับออกมา การเก็งกำไรระยะสั้นแนะนำเปิดสถานะขายจากแนวต้านบริเวณ 958-960 จุด และมีจุดปิดสถานะตัดขาดทุนอยู่ที่ 962 จุด โดยมีแนวรับสำหรับเก็งกำไรการฟื้นตัวในระหว่างวันอยู่ที่ 944-945 จุด และมีจุดขายตัดขาดทุนอยู่ที่ 940 จุด
Single Stock Futures
EGCO Futures
ราคาหุ้น EGCO ปิดตลาดเพิ่มขึ้นในการซื้อขายวันพุธที่ผ่านมา แต่ด้วยเครื่องมือทางเทคนิคยังมีสัญญาณเตือนการปรับฐาน หากราคาหุ้นเคลื่อนไหวใกล้แนวต้านบริเวณ 186-187 บาท แนะนำเปิดสถานะขาย และมีจุดปิดสถานะตัดขาดทุนอยู่ที่ 188 บาท
