.

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 300 จุดในวันอังคาร (29 มี.ค.) ขานรับความคืบหน้าในการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครน นอกจากนี้ ราคาน้ำมันที่ร่วงลงอย่างต่อเนื่องยังช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อ

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,294.19 จุด เพิ่มขึ้น 338.30 จุด หรือ +0.97%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,631.60 จุด เพิ่มขึ้น 56.08 จุด หรือ +1.23% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,619.64 จุด เพิ่มขึ้น 264.73 จุด หรือ +1.84%

 

นายเมฟลุต คาวูโซกลู รมว.ต่างประเทศตุรกีกล่าวว่า การเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครนที่กรุงอิสตันบูลเมื่อวานนี้ มีความคืบหน้ามากที่สุดนับตั้งแต่ทั้งสองฝ่ายได้เริ่มการเจรจาเป็นต้นมา พร้อมกับกล่าวว่า รมว.ต่างประเทศของรัสเซียและยูเครนจะหารือกันในโอกาสต่อไปเกี่ยวกับประเด็นที่มีความซับซ้อนมากขึ้น ก่อนที่ปธน.วลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย และปธน.โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน จะพบปะกันในที่สุด

 

ด้านสำนักข่าวทาสส์ของรัสเซียรายงานโดยอ้างกระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุว่า รัสเซียจะลดปฏิบัติการทางทหาร “ลงอย่างมาก” รอบกรุงเคียฟ ซึ่งเป็นเมืองหลวงของยูเครน รวมทั้งเมืองเชอร์นิฮิฟ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มความไว้วางใจระหว่างรัสเซียและยูเครน และเพื่อเอื้ออำนวยต่อการเจรจาสันติภาพในครั้งต่อไปของทั้งสองฝ่าย

 

หุ้น 10 ใน 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ปิดในแดนบวก นำโดยดัชนีหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์พุ่งขึ้น 2.85% โดยหุ้นโจนส์ แลง ลาซาลล์ พุ่งขึ้น 3.7% หุ้นอเมริกัน เรียลตี้ อินเวสเตอร์ส พุ่งขึ้น 4.13% หุ้นอาร์มาดา ฮอฟเฟอร์ พร็อพเพอร์ตีส์ ดีดขึ้น 1.51% หุ้นฮัดสัน แปซิฟิก พร็อพเพอร์ตี้ส์ พุ่งขึ้น 3.71%

 

ดัชนีหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีพุ่งขึ้น 2.06% โดยหุ้นเน็ตฟลิกซ์ พุ่งขึ้น 3.52% หุ้นแอปเปิล เพิ่มขึ้น 1.91% หุ้นไมโครซอฟท์ ปรับตัวขึ้น 1.52% หุ้นเมตา แพลตฟอร์มส์ พุ่งขึ้น 2.8%

 

หุ้นโมเดอร์นา พุ่งขึ้น 4.37% หลังจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (FDA) ของสหรัฐ อนุมัติการใช้วัคซีนป้องกันโควิด-19 เข็ม 4 ของบริษัทโมเดอร์นา ในกลุ่มผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป

 

อย่างไรก็ดี หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลงตามทิศทางราคาน้ำมัน โดยหุ้นโคโนโคฟิลลิปส์ ดิ่งลง 2.81% หุ้นเอ็กซอน โมบิล ลดลง 0.53% หุ้นเบเกอร์ ฮิวจ์ ปรับตัวลง 0.89% หุ้นเชฟรอน ร่วงลง 1.22%

 

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้  Conference Board ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจ เปิดเผยผลสำรวจระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐดีดตัวขึ้นสู่ระดับ 107.2 ในเดือนมี.ค. ใกล้เคียงกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 107.5 จากระดับ 105.7 ในเดือนก.พ. โดยดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคได้รับแรงหนุนจากแนวโน้มตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง รวมทั้งการชะลอตัวของจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในสหรัฐ

 

ขณะที่ผลสำรวจของเอสแอนด์พี คอร์โลจิก เคส ชิลเลอร์ บ่งชี้ว่า ดัชนีราคาบ้านทั่วประเทศในสหรัฐพุ่งขึ้น 19.2% ในเดือนม.ค. เมื่อเทียบรายปี จากระดับ 18.9% ในเดือนธ.ค. โดยราคาบ้านยังคงได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ของผู้ซื้อบ้าน และสต็อกบ้านที่ตึงตัว แม้ว่าอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองดีดตัวขึ้นก็ตาม

 

นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนมี.ค.ของสหรัฐในวันศุกร์นี้ ขณะที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของสำนักข่าวดาวโจนส์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 460,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. ซึ่งน้อยกว่าในเดือนก.พ.ที่พุ่งขึ้น 678,000 ตำแหน่ง และคาดว่าอัตราว่างงานเดือนมี.ค.จะลดลงสู่ระดับ 3.7%

 

ที่มา สำนักข่าวอินโฟเควสท์