.

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า กระทรวงการคลังสหรัฐออกแถลงการณ์เมื่อวานนี้ (22 ก.พ.) โดยระบุห้ามไม่ให้ทำการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลรัสเซียที่ออกหลังจากวันที่ 1 มี.ค.ในตลาดรอง โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อ “ตัดรัสเซียออกจากแหล่งรายได้ต่าง ๆ ที่ใช้เป็นทุนสนับสนุนรัฐบาลหรือแผนการของประธานาธิบดีปูติน ซึ่งรวมถึงการรุกรานยูเครนมากขึ้น”

ด้านนักวิเคราะห์กล่าวว่า มาตรการดังกล่าวอาจส่งผลกระทบระดับปานกลางในระยะสั้น แต่อาจเป็นก้าวหนึ่งไปสู่มาตรการที่รุนแรงขึ้น

นายทิม แอช นักกลยุทธ์อาวุโสด้านพันธบัตรรัฐบาลในตลาดเกิดใหม่จากบลูเบย์ แอสเซ็ท แมเนจเมนต์ กล่าวว่า “สหรัฐส่งสารชัดเจนว่า เราไม่ต้องการให้คุณถือสินทรัพย์รัสเซีย” โดยบอกกันชัด ๆ ให้ “รีบขายทิ้งเดี๋ยวนี้”

“ดังนั้นเราจึงมีการคว่ำบาตรตราสารหนี้ทั้งในสกุลเงินรูเบิลและดอลลาร์ที่ออกใหม่ทั้งในตลาดหลักและตลาดรอง … ขั้นตอนต่อไปที่สมเหตุสมผลหากรัสเซียบุกเต็มรูปแบบคือ คว่ำบาตรตราสารหนี้ที่มีอยู่แล้วในตลาดรอง” นายแอชกล่าว

นายจาฮังกีร์ อาซิซ นักวิเคราะห์ของเจพีมอร์แกน เขียนว่า “แม้รัสเซียจะมีความต้องการจัดหาเงินทุนในระดับต่ำที่ประมาณ 1.5% ของ GDP แต่การคว่ำบาตรครั้งนี้จะเพิ่มต้นทุนทางการเงินของรัฐบาล และภาคเอกชนจะต้องการส่วนเพิ่มของผลตอบแทนเพื่อชดเชยความเสี่ยงเพิ่มยิ่งขึ้น”

ที่มา สำนักข่าวอินโฟเควสท์