.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันพฤหัสบดี (21 เม.ย.) โดยตลาดถูกกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่ปรับตัวสูงขึ้น รวมทั้งความกังวลที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 7.4 ดอลลาร์ หรือ 0.38% ปิดที่ 1,948.2 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 65 เซนต์ หรือ 2.57% ปิดที่ 24.621 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 19.2 ดอลลาร์ หรือ 1.95% ปิดที่ 967.8 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 41.90 ดอลลาร์ หรือ 1.7% ปิดที่ 2,420.20 ดอลลาร์/ออนซ์

 

ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.19% แตะที่ 100.5780 เมื่อคืนนี้ ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ดีดตัวสู่ระดับ 2.921%

 

ทั้งนี้ ดอลลาร์ที่แข็งค่าจะลดความน่าดึงดูดของทองคำ โดยทำให้สัญญาทองคำมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น ส่วนการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐจะเพิ่มต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำ เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย

 

นอกจากนี้ ตลาดทองคำยังถูกกดดันหลังจากความกังวลที่ว่า เฟดอาจจะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ

 

นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดได้กล่าวสุนทรพจน์ว่าด้วยเศรษฐกิจโลกในการประชุมกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เมื่อคืนนี้ตามเวลาไทย โดยระบุว่า “การเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อถือเป็นการดำเนินการที่เหมาะสม และมีความเป็นไปได้ที่เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.5% ในการประชุมเดือนพ.ค.นี้”

 

ที่มา  สำนักข่าวอินโฟเควสท์