.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเกือบ 2% ในวันพฤหัสบดี (17 มี.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยไม่มากเท่าที่นักลงทุนเคยวิตกกังวล ขณะเดียวกันนักลงทุนยังคงจับตาความคืบหน้าในการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครน

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 34 ดอลลาร์ หรือ 1.78% ปิดที่ 1,943.2 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 90.6 เซนต์ หรือ 3.67% ปิดที่ 25.616 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 23.2 ดอลลาร์ หรือ 2.3% ปิดที่ 1,031.3 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 124.70 ดอลลาร์ หรือ 5.3% ปิดที่ 2,492 ดอลลาร์/ออนซ์

 

ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.66% แตะที่ 97.9740 เมื่อคืนนี้ ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนตลาดทองคำ เนื่องจากทำให้สัญญาทองคำซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีราคาถูกลงและน่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น

 

เจฟฟ์ เคลียร์แมน นักวิเคราะห์จากบริษัท GraniteShares กล่าวว่า ตลาดทองคำยังได้ปัจจัยบวกจากการที่เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% สู่ระดับ 0.25-0.50% ซึ่งไม่มากเท่ากับที่นักลงทุนเคยกังวลว่าเฟดอาจจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.50% นอกจากนี้ อัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นในยุโรปและสหรัฐยังเป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

 

นักลงทุนยังคงจับตาการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครน ขณะที่สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า นายดมิทรี เพสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน กล่าวปฏิเสธรายงานข่าวจากสื่อที่ระบุว่า การเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครนได้ประสบความคืบหน้าอย่างมาก และทั้งสองฝ่ายใกล้บรรลุข้อตกลง

 

ที่มา  สำนักข่าวอินโฟเควสท์