.

ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครนเปิดเผยว่า กองกำลังทหารของรัสเซียได้ทำลายโรงพยาบาลในยูเครนหลายร้อยแห่ง รวมถึงสถานพยาบาลทางการแพทย์ ส่งผลให้ยูเครนเผชิญวิกฤตขาดแคลนยารักษาโรคมะเร็ง ขณะที่แพทย์ไม่สามารถทำการผ่าตัดให้กับผู้ป่วยได้

 

ปธน.เซเลนสกีกล่าวว่า “หากนึกภาพเฉพาะโครงสร้างพื้นฐานทางการแพทย์ นับจนถึงวันนี้กองทัพรัสเซียได้ทำลายและสร้างความเสียหายให้กับสถานพยาบาลไปแล้วเกือบ 400 แห่ง ทั้งโรงพยาบาล ศูนย์ผดุงครรภ์ คลินิกผู้ป่วยนอก สถานการณ์ในขณะนี้เลวร้ายเข้าขั้นหายนะ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ถูกรัสเซียยึดครอง”

 

นอกจากนี้ ผู้นำยูเครนยังระบุว่า หลายพื้นที่ในภาคตะวันออกและภาคใต้ซึ่งเป็นพื้นที่สู้รบหลักไม่มีแม้กระทั่งยาปฏิชีวนะ

 

“สถานการณ์ตอนนี้ส่งผลให้ผู้ป่วยโรคมะเร็งไม่มียารักษา ซึ่งสร้างความยากลำบากถึงขีดสุด ส่วนผู้ป่วยเบาหวานก็ไม่มีอินซูลิน และแพทย์ก็ไม่สามารถผ่าตัดได้เลย ส่วนยาปฏิชีวนะนั้นก็ร่อยหรอ”

 

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า หนึ่งในการโจมตีของรัสเซียที่ถูกประณามในวงกว้างคือ การโจมตีโรงพยาบาลแม่และเด็กแห่งหนึ่งที่ถูกทำลายจนเกือบราบคาบในเมืองมาริอูโพลเมื่อเดือนมี.ค. ขณะที่รัสเซียกออกมาโต้แย้งว่า ภาพที่นำมากล่าวหานั้นเป็นการจัดฉาก  โดยกลุ่มติดอาวุธยูเครนซึ่งใช้สถานที่ในภาพเป็นเครื่องมือ

 

ทางด้านทำเนียบเครมลินระบุว่า ฝ่ายรัสเซียตั้งเป้าโจมตีสถานที่ของกองทัพหรือจุดยุทธศาสตร์ ไม่ใช่พลเรือน ขณะที่ยูเครนรายงานทุกวันว่า มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีของฝ่ายรัสเซีย และกล่าวหารัสเซียว่าเป็นอาชญากรสงคราม

 

ที่มา สำนักข่าวอินโฟเควสท์