.
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพฤหัสบดี (29 ธ.ค.) เนื่องจากการอ่อนค่าของดอลลาร์และการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐเป็นปัจจัยหนุนตลาดทองคำ

ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. พุ่งขึ้น 10.2 ดอลลาร์ หรือ 0.56% ปิดที่ 1,826 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 41 เซนต์ หรือ 1.72% ปิดที่ 24.25 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 44.8 ดอลลาร์ หรือ 4.39% ปิดที่ 1,065 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 31.40 ดอลลาร์ หรือ 1.8% ปิดที่ 1816.40 ดอลลาร์/ออนซ์

ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.59% แตะที่ 103.8610 ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ลดลง 0.22% สู่ระดับ 3.864% เมื่อคืนนี้

การอ่อนค่าของดอลลาร์ส่งผลให้สัญญาทองคำซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีราคาถูกลงและน่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือสกุลเงินอื่น ๆ ส่วนการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐจะช่วยลดต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำ เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย

ฟิลลิป สไตร์เบิล นักวิเคราะห์จากบริษัทบลูไลน์ ฟิวเจอร์ในเมืองชิคาโกกล่าวว่า การปรับตัวลงของดัชนีดอลลาร์และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ มีขึ้นหลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขว่างงานเพิ่มขึ้น ซึ่งบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานเริ่มคลายความร้อนแรงและอาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ชะลอการปรับขึ้นดอกเบี้ย

สไตร์เบิลคาดการณ์ว่า แนวรับของสัญญาทองคำจะอยู่ที่ระดับ 1,700 ดอลลาร์ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า และคาดว่าสัญญาทองคำจะเคลื่อนไหวโดยเฉลี่ยที่ระดับ 1,950 ดอลลาร์ในปี 2566

ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 9,000 ราย สู่ระดับ 225,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งสอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ส่วนจำนวนชาวอเมริกันที่ยังคงขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่อง เพิ่มขึ้น 41,000 ราย สู่ระดับ 1.710 ล้านราย

ที่มา          สำนักข่าวอินโฟเควสท์