.

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดในแดนลบติดต่อกันเป็นวันที่ 6 ในวันอังคาร (27 ก.ย.) ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 2 ปี หลังจากเจ้าหน้าที่ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งรวมถึงนายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์ได้ออกมาสนับสนุนให้เฟดเดินหน้าปรับขึ้นดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ แม้มีความเสี่ยงที่จะทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวลงก็ตาม

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 29,134.99 จุด ลดลง 125.82 จุด หรือ -0.43%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,647.29 จุด ลดลง 7.75 จุด หรือ -0.21% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,829.50 จุด เพิ่มขึ้น 26.58 จุด หรือ +0.25%

 

นายบูลลาร์ ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์กล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมเศรษฐกิจที่กรุงลอนดอนเมื่อวานนี้ว่า เขายังคงสนับสนุนให้เฟดขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกเพื่อควบคุมเงินเฟ้อให้กลับสู่เป้าหมาย และคาดว่าภายในสิ้นปีนี้ อัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟดจะดีดตัวขึ้นแตะที่ระดับ 4.5%

 

ขณะที่นายชาร์ลส์ อีแวนส์ ประธานเฟดสาขาชิคาโกให้สัมภาษณ์ในรายการ “Squawk Box Europe” ของสำนักข่าวซีเอ็นบีซีว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อยังคงเป็นสิ่งที่จำเป็น เพราะตัวเลขเงินเฟ้อในระดับต่ำและมีเสถียรภาพถือเป็นปัจจัยที่สำคัญต่อการผลักดันให้เศรษฐกิจเติบโต โดยแม้ว่าเขารู้สึกกังวลที่เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรวดเร็วเกินไป แต่เขายังคงเชื่อว่า เศรษฐกิจสหรัฐสามารถหลีกเลี่ยงภาวะถดถอย หากไม่มีปัจจัยอื่นที่สร้างความตื่นตระหนกต่อตลาด

 

การแสดงความเห็นดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า เฟดยังคงมุ่งมั่นที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปเพื่อฉุดเงินเฟ้อให้กลับสู่เป้าหมายที่ระดับ 2% ขณะที่นักวิเคราะห์ของธนาคารเวลส์ ฟาร์โก คาดการณ์ว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายสู่ระดับ 4.75% – 5.00% ภายในไตรมาสแรกของปี 2566

 

หุ้น 7 ใน 11 กลุ่มในดัชนี S&P500 ปิดในแดนลบ นำโดยหุ้นกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค โดยหุ้นพรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล ร่วงลง 2.75% หุ้นโคคา-โคลา ร่วงลง 2.56% หุ้นคิมเบอร์ลีย์-คล้าค ลดลง 1.34% หุ้นฟิลลิป มอร์ริส อินเตอร์เนชันแนล ดิ่งลง 3.45%

 

หุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคปรับตัวลงเช่นกัน โดยหุ้นพีจีแอนด์อี ดิ่งลง 2.82% หุ้นดุ๊ค เอนเนอร์จี ร่วงลง 2.5% หุ้นเอ็กเซลอน คอร์ปอเรชั่น ร่วงลง 1.06%

 

อย่างไรก็ดี หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีดีดตัวขึ้นและเป็นปัจจัยหนุนดัชนี Nasdaq ปิดในแดนบวก โดยหุ้นเทสลา พุ่งขึ้น 2.51% หุ้นแอปเปิล บวก 0.66% หุ้นอินวิเดีย พุ่งขึ้น 1.51% หุ้นไมครอน เทคโนโลยี ทะยานขึ้น 3.48%

 

หุ้นกลุ่มพลังงานฟื้นตัวขึ้นตามทิศทางราคาน้ำมัน WTI โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล พุ่งขึ้น 2.08% หุ้นออคซิเดนเชียล ปิโตรเลียม ปรับตัวขึ้น 1.19% หุ้นฮัลลิเบอร์ตัน เพิ่มขึ้น 1.93%

 

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการรายงานเมื่อคืนนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป ลดลง 0.2% ในเดือนส.ค. หลังจากปรับตัวลง 0.1% ในเดือนก.ค.

 

นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่พุ่งขึ้น 28.8% สู่ระดับ 685,000 ยูนิตในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายเดือน สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าลดลงสู่ระดับ 500,000 ยูนิต แต่เมื่อเทียบรายปี ยอดขายบ้านใหม่ลดลง 0.1% ในเดือนส.ค.

 

ที่มา สำนักข่าวอินโฟเควสท์