.

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันศุกร์ (18 พ.ย.) หลังการซื้อขายที่เป็นไปอย่างผันผวน โดยการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มปลอดภัยได้ช่วยชดเชยการลดลงของหุ้นกลุ่มพลังงาน ขณะที่นักลงทุนปรับตัวรับความเห็นของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

 

ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,745.69 จุด เพิ่มขึ้น 199.37 จุด หรือ +0.59%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,965.34 จุด เพิ่มขึ้น 18.78 จุด หรือ +0.48% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,146.06 จุด เพิ่มขึ้น 1.10 จุด หรือ +0.01%

 

แต่ในรอบสัปดาห์นี้ ดัชนีดาวโจนส์ทรงตัว, ดัชนี S&P500 ลดลง 0.7% และดัชนี Nasdaq ลดลง 1.6%

 

บรรดานักลงทุนปรับตัวรับความเห็นของนางซูซาน คอลลินส์ ประธานเฟดสาขาบอสตันซึ่งระบุว่า แทบไม่มีหลักฐานบ่งชี้ว่าแรงกดดันด้านราคากำลังปรับตัวลง และเฟดอาจจำเป็นจะต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.75% เพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อ

 

ตลาดหุ้นสหรัฐได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มปลอดภัยในดัชนี S&P500 โดยกลุ่มสาธารณูปโภค พุ่งขึ้น 2%, กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ เพิ่มขึ้น 1.3% และกลุ่มเฮลท์แคร์ ปรับตัวขึ้น 1.2%

 

ส่วนหุ้นกลุ่มพลังงาน ร่วงลง 0.9% เนื่องจากราคาน้ำมันปรับตัวลงท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับอุปสงค์ที่อ่อนแอในจีน และแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในสหรัฐ

 

หุ้นไกรน์เดอร์ (Grindr) แอปหาคู่ของกลุ่มรักร่วมเพศ พุ่งขึ้นราว 214% ในการซื้อขายวันแรก หลังบริษัทเสร็จสิ้นการควบรวมกิจการกับบริษัทแห่งหนึ่งซึ่งซื้อกิจการเพื่อจุดประสงค์พิเศษ

 

หุ้นแก๊ป อิงค์ พุ่ง 7.6% หลังเปิดเผยยอดขายและผลกำไรรายไตรมาสที่สูงเกินคาด

 

ส่วนหุ้นไลฟ์ เนชั่น เอนเทอร์เทนเมนต์ ร่วง 7.8% หลังหนังสือพิมพ์นิวยอร์ก ไทมส์รายงานว่า กระทรวงยุติธรรมสหรัฐกำลังสอบสวนว่า บริษัทไลฟ์ เนชั่น เอนเทอร์เทนเมนต์ ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของทิกเก็ตมาสเตอร์ใช้อำนาจในทางที่ผิดในอุตสาหกรรมแสดงดนตรีสดมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์หรือไม่

 

ที่มา สำนักข่าวอินโฟเควสท์