.

นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมนโยบายการเงิน โดยกล่าวว่า เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.75% ในการประชุมเดือนก.ค. หลังจากที่ได้ปรับขึ้นไปแล้ว 0.75% ในการประชุมครั้งล่าสุด

 

คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.75% สู่ระดับ 1.50-1.75% ในการประชุมเมื่อวันพุธ (15 มิ.ย.) ซึ่งเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 28 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 2537

 

“เมื่อพิจารณาจากมุมมองในขณะนี้ ผมคิดว่าเฟดอาจจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.50% หรือ 0.75% ในการประชุมเดือนก.ค. ซึ่งเรามองว่าเป็นการปรับขึ้นในระดับที่เหมาะสม ส่วนการที่เฟดปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมครั้งล่าสุดนี้ แน่นอนว่าเป็นการปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งใหญ่ แต่ผมไม่คิดว่าการปรับขึ้นดอกเบี้ยแรงถึง 0.75% จะกลายเป็นเรื่องปกติสำหรับเฟด” นายพาวเวลกล่าว

 

ถ้อยแถลงดังกล่าวของนายพาวเวลนับเป็นการส่งสัญญาณว่า เฟดมีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.75% ในการประชุมเดือนหน้าเช่นเดียวกับในเดือนนี้ ซึ่งถือเป็นปัจจัยบวกต่อตลาด เนื่องจากที่ผ่านมานั้นนักลงทุนได้เรียกร้องให้นายพาวเวลใช้มาตรการที่จริงจังในการสกัดเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นอย่างรุนแรง โดยแถลงการณ์ของนายพาวเวลเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ช่วยหนุนตลาดหุ้นสหรัฐทะยานขึ้นหลังการประชุมเฟด

 

ในการประชุมครั้งนี้ เฟดเปิดเผยการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) โดยระบุว่าเจ้าหน้าที่เฟดคาดการณ์ว่า อัตราดอกเบี้ยจะแตะระดับ 3.4% ในช่วงสิ้นปีนี้ ซึ่งบ่งชี้ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 1.75% ภายในปีนี้ และคาดว่าอัตราดอกเบี้ยจะปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 3.8% ในสิ้นปี 2566 และชะลอตัวสู่ระดับ 3.4% ในปี 2567 ขณะที่อัตราดอกเบี้ยระยะยาวอยู่ที่ 2.5%

 

“อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจของเราจะขึ้นอยู่กับการพิจารณาในการประชุมแต่ละครั้ง และเราจะยังคงสื่อสารความคิดเห็นของเราให้ตลาดรับรู้อย่างชัดเจนที่สุดเท่าที่เราจะทำได้” นายพาวเวลกล่าว

 

ที่มา          สำนักข่าวอินโฟเควสท์