.

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงในวันพุธ (13 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระดับที่รุนแรงขึ้น หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่สูงกว่าคาด

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 30,772.79 จุด ลดลง 208.54 จุด หรือ -0.67%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,801.78 จุด ลดลง 17.02 จุด หรือ -0.45% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,247.58 จุด ลดลง 17.15 จุด หรือ -0.15%

 

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค พุ่งขึ้น 9.1% ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 40 ปี นอกจากนี้ ตัวเลขดังกล่าวยังสูงกว่าระดับ 8.6% ในเดือนพ.ค. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 8.8%

 

ส่วนดัชนี CPI พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 5.9% ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งแม้ว่าชะลอตัวลงจากเดือนพ.ค.ที่พุ่งขึ้น 6.0% แต่ยังสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 5.8%

 

วิลล์ คอมเพอร์นอลล์ นักวิเคราะห์จากบริษัทเอฟเอชเอ็น ไฟแนนเชียลกล่าวว่า “ดัชนี CPI เดือนมิ.ย.ที่ออกมาสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์นั้น ทำให้ตลาดกังวลว่าอาจส่งผลให้เฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.75% หรืออาจจะแรงถึง 1% ในการประชุมเดือนก.ค. และมีแนวโน้มว่าเฟดอาจจะปรับขึ้นอีก 0.75% ในการประชุมเดือนก.ย. ซึ่งจะเป็นการขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุม 3 ครั้งติดต่อกัน”

 

หุ้น 9 ใน 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ปิดในแดนลบ นำโดยดัชนีหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมร่วงลง 1.2% โดยหุ้นโบอิ้ง ดิ่งลง 2.18% หุ้นแคทเธอร์ พิลลาร์ ซึ่งเป็นบริษัทผลิตเครื่องมือก่อสร้างขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ลดลง 0.36% หุ้นเจเนอรัล อิเล็กทริก (จีอี) ร่วงลง 1.56% หุ้น 3M ร่วงลง 1.38%

 

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีซึ่งมีความอ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ยปรับตัวลงเช่นกัน โดยหุ้นอัลฟาเบท ร่วงลง 2.34% หุ้นแอปเปิล ลดลง 0.25% หุ้นไมโครซอฟท์ ลดลง 0.37% หุ้นไมครอน เทคโนโลยี ปรับตัวลง 0.54%

 

หุ้นกลุ่มสายการบินร่วงลง หลังจากเดลต้า แอร์ไลน์ เปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 2 ที่ต่ำกว่าคาด โดยหุ้นยูไนเต็ด แอร์ไลน์ ปรับตัวลง 0.84% หุ้นเดลต้า แอร์ไลน์ ร่วงลง 4.47% หุ้นอเมริกัน แอร์ไลน์ ดิ่งลง 3.11% หุ้นเจ็ทบลู แอร์เวย์ส ร่วงลง 1.93%

 

หุ้นทวิตเตอร์ พุ่งขึ้น 7.9% หลังจากบริษัทฮินเดนเบิร์ก รีเสิร์ช ประกาศเข้าซื้อหุ้นจำนวนมากในทวิตเตอร์ โดยข่าวดังกล่าวช่วยหนุนราคาหุ้นทวิตเตอร์ฟื้นตัวขึ้น หลังจากราคาร่วงลงในช่วงแรก อันเนื่องมาจากข่าวที่ว่า บริษัททวิตเตอร์ยื่นฟ้องต่อศาลในรัฐเดลาแวร์  เพื่อเอาผิดนายอีลอน มัสก์ ฐานละเมิดข้อตกลงซื้อกิจการทวิตเตอร์วงเงิน 4.4 หมื่นล้านดอลลาร์

 

นักลงทุนจับตารายงานผลประกอบการของธนาคารรายใหญ่ของสหรัฐ โดยเจพีมอร์แกน และมอร์แกน สแตนลีย์ จะรายงานผลประกอบการประจำไตรมาส 2 ในวันที่ 14 ก.ค. ขณะที่ซิตี้กรุ๊ป และเวลส์ ฟาร์โก จะรายงานในวันที่ 15 ก.ค. ส่วนแบงก์ ออฟ อเมริกา และโกลด์แมน แซคส์ จะรายงานในวันที่ 18 ก.ค.

 

ที่มา  สำนักข่าวอินโฟเควสท์