.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 8 เดือนในวันพฤหัสบดี (12 ม.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังสหรัฐเปิดเผยเงินเฟ้อที่อ่อนแรงลงในเดือนธ.ค.

 

ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 19.9 ดอลลาร์ หรือ 1.06% ปิดที่ระดับ 1,898.8 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2565

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 52.3 เซนต์ หรือ 2.23% ปิดที่ 24.004 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. ปิดที่ 1,084.3 ดอลลาร์/ออนซ์ ไม่เปลี่ยนแปลงจากระดับของวันพุธ

 

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 9.80 ดอลลาร์ หรือ 0.6% ปิดที่ 1,790.90 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาทองคำทะยานขึ้นเหนือระดับ 1,900 ดอลลาร์ในระหว่างวัน หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ทั่วไป ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 6.5% ในเดือนธ.ค. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งชะลอตัวลงจากเดือนพ.ย.ที่เพิ่มขึ้น 7.1% และเป็นการปรับตัวขึ้นน้อยที่สุดนับตั้งแต่เดือนต.ค. 2564 นอกจากนี้ ตัวเลขดังกล่าวยังสอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

 

เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี CPI ทั่วไปปรับตัวลง 0.1% ในเดือนธ.ค. สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ และเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกในรอบกว่า 2 ปีครึ่ง

 

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐร่วงลง และสกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง หลังจากสหรัฐเปิดเผยดัชนี CPI โดยการอ่อนค่าของดอลลาร์ส่งผลให้สัญญาทองคำซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีราคาถูกลงและน่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือสกุลเงินอื่น ๆ ส่วนการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐจะช่วยลดต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำ เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย

 

นอกจากนี้ หลังจากสหรัฐเปิดเผยดัชนี CPI  นักลงทุนได้ให้น้ำหนักมากกว่า 90% ในการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.25% ในการประชุมวันที่ 31 ม.ค. – 1 ก.พ. หลังจากที่ก่อนหน้านี้ให้น้ำหนัก 76.7%

 

ที่มา สำนักข่าวอินโฟเควสท์