.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลดลงในวันศุกร์ (7 ต.ค.) โดยถูกกดดันหลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่สูงกว่าคาด ซึ่งจะทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป

 

ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 11.5 ดอลลาร์ หรือ 0.67% ปิดที่ระดับ 1,709.3 ดอลลาร์/ออนซ์ แต่ยังคงปิดบวก 2.2% ในรอบสัปดาห์นี้

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 40.5 เซนต์ หรือ 1.96% ปิดที่ 20.255 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 3.9 ดอลลาร์ หรือ 0.42% ปิดที่ 917.9 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 84.20 ดอลลาร์ หรือ 3.7% ปิดที่ 2,191.30 ดอลลาร์/ออนซ์

 

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยในวันศุกร์ว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 263,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 250,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 3.5% จากระดับ 3.7% ในเดือนส.ค.

 

นักวิเคราะห์ตลาดระบุว่า ข้อมูลการจ้างงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานอยู่ในภาวะที่ดีกว่าที่ตลาดคาดไว้ และจะสนับสนุนให้เฟดเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป

 

สัญญาทองคำได้รับผลกระทบจากดัชนีดอลลาร์และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่ปรับตัวขึ้น หลังการเปิดเผยข้อมูลจ้างงาน

 

ดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นจะลดความน่าดึงดูดของทอง โดยทำให้สัญญาทองมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น ขณะที่การดีดตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐจะเพิ่มต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำ เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย

 

บรรดานักลงทุนเพิ่มการคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมกำหนดนโยบายการเงินในเดือนพ.ย. ซึ่งจะเป็นการปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ติดต่อกันเป็นครั้งที่ 4 หลังจากปรับขึ้น 0.75% ในเดือนมิ.ย., ก.ค. และก.ย.

 

ขณะเดียวกัน นักลงทุนจะจับตารายงานการประชุมของเฟดประจำเดือนก.ย.ในวันที่ 12 ต.ค.นี้ และตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในวันที่ 13 ต.ค. เพื่อหาสิ่งบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟดต่อไป

 

ที่มา  สำนักข่าวอินโฟเควสท์