.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันศุกร์ (3 มิ.ย.) โดยถูกกดดันจากเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้น ซึ่งส่งผลให้สัญญาทองคำที่กำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีราคาแพงขึ้นและไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น ๆ

 

ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 21.2 ดอลลาร์ หรือ 1.13% ปิดที่ 1,850.2 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นการร่วงลงวันเดียวมากที่สุดในรอบราว 3 สัปดาห์

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 36.7 เซนต์ หรือ 1.65% ปิดที่ 21.908 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 12 ดอลลาร์ หรือ 1.17% ปิดที่ 1,016.4 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 61.60 ดอลลาร์ หรือ 3% ปิดที่ 1,985.90 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาทองคำถูกกดดันจากดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น โดยดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.31% สู่ระดับ 102.1390

 

ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น หลังการเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานที่แข็งแกร่งเกินคาดของสหรัฐได้ตอกย้ำการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปในช่วงหลายเดือนข้างหน้า

 

กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานในวันศุกร์ว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 390,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 325,000 ตำแหน่ง และอัตราการว่างงานทรงตัวที่ระดับ 3.6% สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 3.5%

 

นางลอเร็ตตา เมสเตอร์ ประธานเฟดสาขาคลีฟแลนด์กล่าวในการประชุมออนไลน์ที่จัดโดยสภาเศรษฐศาสตร์ธุรกิจฟิลาเดลเฟียเมื่อวันพฤหัสบดีว่า เธอไม่สนับสนุนให้เฟดยุติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย. และเตือนว่าอัตราการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะเร็วขึ้นหรือช้าลงนับตั้งแต่เดือนก.ย.นั้น ขึ้นอยู่กับทิศทางของอัตราเงินเฟ้อ

 

ที่มา  สำนักข่าวอินโฟเควสท์