การประชุมเฟดครั้งสุดท้ายของปีนี้มีอะไรใหม่หรือไม่
1. การประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ครั้งสุดท้ายของปีนี้ในวันที่ 13-14 ธ.ค. ผลการประชุมเฟดมีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.50% สู่ระดับ 4.25-4.50% เป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้
2. การคาดการณ์อัตราดอกเบี้ย (Dot Plot) เฟดได้ปรับเปลี่ยนมุมมองอัตราดอกเบี้ยนโยบายในอนาคต ซึ่งได้ปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายสิ้นปี 2566 เป็น 5.1% จากระดับ 4.60% ที่เปิดเผยในเดือนก.ย.
3. ในปีหน้าเฟดปรับลดอัตราการขยายตัวของจีดีพีลงเหลือ 0.5% จากเดิมในเดือนก.ย.ที่ 1.2% ขณะที่ปรับเพิ่มอัตราการว่างงานเป็น 4.6% จากเดิมในเดือนก.ย.ที่ 4.4% และปรับเพิ่มอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเป็น 3.5% จากเดิมในเดือนก.ย.ที่ 3.1%
ประมาณการตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ของเฟด
ข้อมูลเศรษฐกิจ (%) | 2023 | 2024 | 2025 |
อัตราการขยายตัวของจีดีพี | 0.5 | 1.6 | 1.8 |
ประมาณการเมื่อเดือนก.ย. | 1.2 | 1.7 | 1.8 |
อัตราการว่างงาน | 4.6 | 4.6 | 4.5 |
ประมาณการเมื่อเดือนก.ย. | 4.4 | 4.4 | 4.3 |
อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน | 3.5 | 2.5 | 2.1 |
ประมาณการเมื่อเดือนก.ย. | 3.1 | 2.3 | 2.1 |
ที่มา : ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ธันวาคม 2565
4. ประธานเฟดส่งสัญญาณขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปและยังไม่ลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า แสดงความเป็นห่วงว่าอัตราเงินเฟ้อในภาคบริการยังสูงอยู่ ถือว่าให้ความเห็นที่เป็นสายเหยี่ยวมากขึ้น เมื่อเทียบกับในช่วงปลายเดือนพ.ย.ที่ประธานเฟดได้กล่าวปาฐกถาที่สถาบันบรู้กกิงส์ โดยส่งสัญญาณชะลอการขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในการประชุมเดือนธ.ค.ปีนี้
ราคาทองคำตอบรับทางลบต่อการประชุมเฟด
ในปีหน้าแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่ยังเป็นขาขึ้นและเฟดได้ปรับเพิ่มประมาณการอัตราดอกเบี้ยขึ้น โดยคาดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ถึงแม้ว่าเฟดคาดจะชะลอการขึ้นอัตราดอกเบี้ยก็ตามเมื่อเทียบกับปีนี้ที่ขึ้นอัตราดอกเบี้ย 4.25% รวมทั้งความเห็นของประธานเฟดที่เป็นสายเหยี่ยวมากขึ้นผิดจากการคาดการณ์ของตลาดพอสมควร ส่วนประมาณข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐของเฟดตีความได้ว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด ทำให้เศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัวลง คนว่างงานเพิ่มขึ้น และอัตราเงินเฟ้อยังควบคุมไม่ได้ เนื่องจากตลาดแรงงานสหรัฐตึงตัว ทำให้ผู้ประกอบการอาจต้องเพิ่มค่าจ้างและมีต้นทุนด้านแรงงานสูงขึ้น ทำให้ราคาทองคำ Spot ปรับลดลงจากที่ยืนเหนือ 1,800 ดอลลาร์ก่อนการประชุม ลงไปจุดต่ำสุดที่ 1,774 ดอลลาร์เมื่อวันที่ 15 ธ.ค. หลังการประชุม โดยเริ่มเห็นแรงเทขายอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ตลาดการเงินยุโรปเปิดการซื้อขาย แต่ในที่สุดสามารถฟื้นตัวขึ้นได้ แล้วทำไมราคาทองคำถึงปรับลดลงน้อยกว่าการประชุมครั้งก่อนๆ
ทองคำถูกเทขายหลังการประชุมเฟดช่วงที่ตลาดการเงินยุโรปเปิด
ที่มา : โปรแกรม ASPEN
ตลาดมีมุมมองอย่างไรต่ออัตราดอกเบี้ยของเฟดในปีหน้า
Dot Plot แสดงให้เห็นว่าในปีหน้าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% แสดงว่าอาจจะขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.5% 1 ครั้ง และขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% 1 ครั้ง จนแตะระดับ 5.00-5.25% และตรึงอัตราดอกเบี้ยต่อไปจนถึงสิ้นปี แต่เมื่อดูจาก FedWatch Tool สะท้อนให้เห็นว่าตลาดไม่ได้คาดการณ์ตามเฟดแต่อย่างใด โดยล่าสุดตลาดคาดว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% จำนวน 2 ครั้งในไตรมาส 1 และจะลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% จำนวน 2 ครั้งในไตรมาส 4 ทำให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายสิ้นปีหน้าจะอยู่เท่าเดิมที่ 4.25-4.50% แล้วทำไมตลาดถึงมีมุมมองอย่างนี้ อาจะเป็นเพราะตลาดคาดว่าการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางชั้นนำ โดยเฉพาะธนาคารกลางสหรัฐ ยุโรปและอังกฤษ อาจส่งผลต่อเศรษฐกิจสหรัฐและเศรษฐกิจโลกถดถอยได้ ซึ่งถ้าเฟดมีการเพิ่มอัตราดอกเบี้ยของเฟดไปแตะระดับ 5.00-5.25% ถือว่าเป็นอัตราดอกเบี้ยสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2550 เมื่อไรก็ตามที่มีการปรับขึ้นถึงระดับนั้นอาจจะทำให้เศรษฐกิจสหรัฐถดถอยได้ ทำให้เฟดอาจต้องกลับมาผ่อนคลายนโยบายการเงินหรือลดอัตราดอกเบี้ย
Dot Plot เดือนธ.ค.2565
ที่มา : CME Group
กลยุทธ์การลงทุนในทองคำ
แนวโน้มราคาทองคำ Spot ในปี 2566 คาดจะเป็นขาขึ้น โดยมีปัจจัยสนับสนุน ได้แก่ การชะลอการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เศรษฐกิจโลกมีความเสี่ยงจะเกิดภาวะถดถอย และแรงซื้อทองแท่งจากจีนและอินเดียที่เป็นผู้ใช้ทองคำรายใหญ่อันดับ 1 และอันดับ 2 ของโลก นอกจากนี้แนวโน้มราคาทองคำ Spot ทางด้านปัจจัยเทคนิคกลับเป็นขาขึ้น ซึ่งก่อนหน้านี้ทิศทางราคาทองคำเป็นขาลงตั้งแต่เดือนมี.ค.ที่ผ่านมา ราคาทองคำมีรูปแบบ Triple bottom โดยลดลงทำจุดต่ำสุดที่ 1,614-1,617 ดอลลาร์ จำนวน 3 ครั้งในวันที่ 28 ก.ย. วันที่ 21 ต.ค. และวันที่ 3 พ.ย. หลังจากนั้นราคาปรับขึ้นอย่างต่อเนื่องจนทะลุ 1,730 ดอลลาร์ได้เมื่อวันที่ 10 พ.ย. ทำให้เกิดสัญญาณซื้อและทิศทางราคาทองคำกลับเป็นขาขึ้น
ดังนั้นการลงทุนระยะสั้นแนะนำเข้าซื้อเมื่อราคาทองคำ Spot ที่ 1,775-1,780 ดอลลาร์ และ 1,765 ดอลลาร์ ส่วนการลงทุนระยะยาวแนะนำทยอยสะสมที่ราคา 1,730 ดอลลาร์ นอกจากนี้อาจเลือกลงทุนทองแท่งในรูปเงินดอลลาร์สหรัฐหรือ USD Gold Trade หรือลงทุนทองแท่งในรูปเงินบาท แต่ป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนโดยใช้ USD Futures ในตลาด TFEX เนื่องจากคาดการณ์เงินบาทจะมีทิศทางแข็งค่าขึ้นในปีหน้า
ราคาทองคำด้านปัจจัยทางเทคนิคเป็นขาขึ้น
ที่มา : โปรแกรม ASPEN, HGF
บทวิเคราะห์โดย :
คุณศิริลักษณ์ ปโกฏิประภา เลขทะเบียน 18145
ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส